ดาวโจนส์ดิ่งจากแรงขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก,เทคโนโลยี หลังผิดหวังผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 9, 2017 22:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงในวันนี้ จากแรงขายในหุ้นกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อการประกาศผลประกอบการ

ณ เวลา 22.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,492.37 จุด ลดลง 70.99 จุด หรือ 0.30%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากพุ่งขึ้น 15% นับตั้งแต่ต้นปีนี้

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นอินเทลร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

บริษัทโคห์ล คอร์ป ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานกำไรในไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และความเสียหายที่เกิดจากพายุเฮอร์ริเคน

ทั้งนี้ โคห์ล คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 70 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 72 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ดี ยอดขายอยู่ที่ระดับ 4.33 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.30 พันล้านดอลลาร์

เมซีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังในไตรมาส 3 โดยแม้กำไรจะสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ก็มีรายได้และยอดขายต่ำกว่าคาด

ทั้งนี้ เมซีส์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 23 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 19 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ดี ยอดขายในห้างเมซีส์ที่เปิดดำเนินงานมานานกว่า 1 ปี ร่วงลง 3.6% เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะลดลง 2.6%

นอกจากนี้ รายได้อยู่ที่ระดับ 5.28 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.31 พันล้านดอลลาร์

ไทม์ อิงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่ของสหรัฐ รายงานรายได้ในไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยรายได้จากค่าโฆษณาของสื่อออนไลน์ไม่สามารถชดเชยรายได้โฆษณาที่ลดลงในสื่อสิ่งพิมพ์

ทั้งนี้ ไทม์ อิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 36 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 29 เซนต์/หุ้น

อย่างไรก็ดี รายได้ร่วงลง 9.5% สู่ระดับ 679 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 693 ล้านดอลลาร์

นักลงทุนยังจับตาบริษัทอีกหลายแห่งที่จะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากปิดตลาดวันนี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทดิสนีย์ และนิวส์ คอร์ป

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 239,000 ราย โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 231,000 ราย

ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 139 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513

ขณะเดียวกัน นักลงทุนเกาะติดความคืบหน้าของมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ และการเดินทางเยือนประเทศจีนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ