(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 39.73 จุด นลท.วิตกมาตรการลดภาษีสหรัฐส่อแววล่าช้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 13, 2017 06:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการแข็งแกร่งของบริษัทเทคโนโลยีช่วยลดช่วงลบ และดันดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาดจนปิดแดนบวกสวนทางอีกสองดัชนี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,422.21 จุด ลดลง 39.73 จุด, -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,582.30 จุด ลดลง 2.32 จุด, -0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,750.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.89 จุด, +0.01%

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.5% ส่วนดัชนี S&P และ Nasdaq ลดลง 0.2% โดยนับเป็นสัปดาห์แรกที่ดาวโจนส์และ S&P ปรับตัวลง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมา 8 สัปดาห์ติดต่อกันก่อนหน้านี้ ขณะที่ Nasdaq ปรับตัวขึ้นมา 6 สัปดาห์

โดยภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันศุกร์นั้น นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากที่หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562

สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภา ซึ่งเนื้อหาหลักในร่างกฎหมายมีความแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งผลให้เกิดความไม่แน่แนอนว่า วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถประสานความแตกต่างในเนื้อหาเหล่านี้ให้ลงตัวได้หรือไม่

การชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราภาษีถือเป็นการสวนทางความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้โดยทันทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ยังอาจจะส่งผลให้บริษัทของสหรัฐที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศเลื่อนการตัดสินใจย้ายฐานกลับสู่สหรัฐ เนื่องจากต้องการรอให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้

ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 97.8 ในเดือนพ.ย. หลังจากดีดตัวแตะระดับ 100.7 ในช่วงสิ้นเดือนต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีจะทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนต.ค.

นายริชาร์ด เคอร์ติน หัวหน้านักวิเคราะห์สำหรับการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวลง เนื่องจากผู้บริโภคมีมุมมองในเชิงลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต และภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน จากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

บริษัทนิวส์ คอร์ป รายงานกำไรและรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยนิวส์ คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 7 เซนต์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1 เซนต์ต่อหุ้น ขณะที่ยอดขายอยู่ที่ระดับ 2.06 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.97 พันล้านดอลลาร์

บริษัทเอ็นวิเดีย ผู้ผลิตชิป รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ดีเกินคาดเช่นกัน โดยมีกำไร 1.33 ดอลลาร์ต่อหุ้น พุ่งขึ้นถึง 60% จากปีที่แล้ว และรายได้แตะ 2.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32%

ด้านนอร์ดสตรอมรายงานผลประกอบการหลังปิดตลาดในวันพฤหัสบดี เผยกำไรแตะ 0.67 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.63 ดอลลาร์ และรายได้แตะ 3.63 ดอลลาร์ สูงกว่าที่ตลาดการณ์ไว้ที่ 3.58 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเอ็นวิเดียพุ่ง 5.27%

หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ หรือ เอเอ็มดี บวก 1.26% และหุ้นไมครอนบวก 2.94%

หุ้นค้าปลีก เจซี เพนนีย์ ทะยาน 14.91% จากผลประกอบการที่ดีเกินคาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ