ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: แรงซื้อหุ้นแบงก์ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 30, 2017 07:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายกฎระเบียบในตลาดการเงิน

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 388.04 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,398.05 จุด เพิ่มขึ้น 7.57 จุด หรือ +0.14% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,061.87 จุด เพิ่มขึ้น 2.34 จุด หรือ +0.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,393.56 จุด ลดลง 67.09 จุด หรือ -0.90% หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นบาร์เคลย์ พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นซานตานเดร์ ดีดตัวขึ้น 1.8% และหุ้นดอยซ์ แบงก์ พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นกลุ่มธนาคารปรับฐานขึ้น หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ว่าที่ประธานเฟดได้กล่าวปกป้องความจำเป็นในการผ่อนคลายกฎระเบียบที่ควบคุมตลาดการเงิน โดยระบุว่า ขณะนี้ถึงเวลาในการพิจารณาทบทวนกฎระเบียบต่างๆ หลังจากที่มีการเพิ่มกฎใหม่ๆเข้าควบคุมตลาดการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ในการกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายพาวเวลกล่าวว่า เขาต้องการให้กฎระเบียบต่างๆได้รับการปรับปรุงให้มีความเหมาะสมสำหรับสถาบันการเงินที่มีขนาดและบทบาทแตกต่างกันออกไป ขณะเดียวกัน นายพาวเวลยังกล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับธนาคารต่างๆที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะล้มนั้น ได้รับการแก้ไขแล้ว

หุ้นเดมเลอร์ เอจี ขยับขึ้น 0.3% หลังจากมีข่าวว่า เดมเลอร์ได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อหุ้นจากบริษัทซีเจียง จีลี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน

หุ้นโอคาโด กรุ๊ป ทะยานขึ้น 16% หลังจากบริษัทกาสิโน กูชาร์ด เปอร์ราชอง ได้ลงนามในข้อตกลงกับโอคาโด กรุ๊ป เพื่อร่วมกันพัฒนาแพลทฟอร์มการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ในฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม หุ้นบริษัทข้ามชาติหลายแห่งร่วงลง โดยหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ดิ่งลง 3.4% หุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ ร่วงลง 2.9% และหุ้นเรคคิทท์ เบนคีเซอร์ ร่วงลง 1.9% อันเนื่องมาจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากหลังจากหนังสือพิมพ์เดลี่ เทเลกราฟของอังกฤษ รายงานว่า อังกฤษ และ EU ได้บรรลุข้อตกลงในหลักการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของทาง EU ที่ต้องการให้อังกฤษจ่ายเงินจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรสำหรับค่า Brexit โดยทางอังกฤษจะจ่ายค่า Brexit ในวงเงินระหว่าง 4.5-5.5 หมื่นล้านยูโร

ทั้งนี้ ประเด็นการจ่ายเงินค่า Brexit ดังกล่าว ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่ขัดขวางการเจรจาระหว่างอังกฤษและ EU ก่อนที่อังกฤษมีกำหนดต้องแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการในเดือนมี.ค.2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ