ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 7.85 จุด หลังหุ้นแอปเปิลดิ่งฉุดหุ้นเทคโนโลยีร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 27, 2017 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิลที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 2.5% หลังจากหนังสือพิมพ์อีโคโนมิค เดลี่ ของไต้หวันรายงานว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์ iPhone X จะออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มพลังงาน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,746.21 จุด ลดลง 7.85 จุด หรือ -0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,680.50 จุด ลดลง 2.84 จุด หรือ -0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,936.25 จุด ลดลง 23.71 จุด หรือ -0.34%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.7% ขณะที่ราคาหุ้นแอปเปิล ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์จำนวน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดร่วงลง 2.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.ปีนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์อีโคโนมิค เดลี่ ของไต้หวันรายงานว่า แอปเปิลจะปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขาย iPhone X ในไตรมาสแรกตามปีงบการเงินของบริษัท สู่ระดับ 30 ล้านเครื่อง โดยลดลงถึง 40% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 50 ล้านเครื่อง

ส่วนหุ้นบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ของแอปเปิลนั้น ร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นบรอดคอม หุ้นสกายเวิร์คส์ โซลูชั่น, หุ้นฟินิซาร์ และหุ้นลูเมนทัม โฮลดิงส์ ต่างก็ปิดตลาดในแดนลบ ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ ดิ่งลง 0.97%

การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้บดบังปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นเมซีย์ พุ่งขึ้น 4.6% หุ้นโคลท์ พุ่งขึ้น 6% และหุ้นวอลมาร์ท ดีดตัวขึ้น 1% โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ดซึ่งระบุว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐในระหว่างวันที่ 1 พ.ย. - 24 ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดขายอีคอมเมิร์ซพุ่งขึ้นถึง 18.1% ซึ่งช่วยหนุนยอดขายในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.8% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข่าวเหตุการณ์ระเบิดที่ท่อส่งน้ำมันในประเทศลิเบีย โดยหุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 0.8% หุ้นอีโอจี รีซอสเซส พุ่งขึ้น 2.1%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามคำสัญญาก่อนหน้านี้ที่ว่าเขาจะมอบการปรับลดภาษีครั้งใหญ่แก่ชาวอเมริกันเป็นของขวัญวันคริสต์มาส

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดและเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดนั้น สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ได้เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และภาวะขาดแคลนสต็อกบ้านในตลาด ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าระดับ 6.2% ในเดือนก.ย.

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ