ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 28.09 จุด รับหุ้นเทคโนฯพุ่ง,ข้อมูลศก.สดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 28, 2017 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) อย่างไรก็ตาม วอลุ่มการซื้อขายบางเบา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายในช่วงใกล้สิ้นปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,774.30 จุด เพิ่มขึ้น 28.09 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,682.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด หรือ +0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,939.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.09 จุด หรือ +0.04%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 0.2% หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ปรับตัวขึ้น 0.9% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดตัวขึ้น 0.4% ส่วนหุ้นแอปเปิล ขยับขึ้น 0.02% หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคาร อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์อีโคโนมิค เดลี่ ซึ่งระบุว่า แอปเปิลจะปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขาย iPhone X ในไตรมาสแรกตามปีงบการเงินของบริษัท สู่ระดับ 30 ล้านเครื่อง โดยลดลงถึง 40% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 50 ล้านเครื่อง

หุ้นโบอิ้งปรับตัวขึ้น 0.1% ขานรับข่าวที่ว่า สายการบินรอยัล แอร์ มารอค ของโมรอคโค ได้สั่งซื้อเครื่องบิน Dreamliners จากบริษัทโบอิ้ง จำนวน 4 ลำ คิดเป็นมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และหากเทียบเป็นรายปี ดัชนีปรับตัวขึ้น 0.8% โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากตัวเลขจ้างงานขยายตัวแข็งแกร่ง

ทางด้านคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค. ลดลงสู่ระดับ 122.1 จากระดับเดือนพ.ย.ที่ 128.6 อย่างไรก็ตาม ระดับของมุมมองที่เป็นบวกของชาวอเมริกันในปีนี้ก็ยังอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2543

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน ปรับตัวลง 0.3% หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ร่วงลง 1.1% หุ้นมาราธอน ออยล์ ดิ่งลง 1.5% และหุ้นเฮสส์ คอร์ป ปรับตัวลง 0.7%

หุ้นเทสลา อิงค์ ร่วงลง 1.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของธนาคารคีย์แบงก์ได้ปรับลดคาดการณ์การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model 3 ของเทสลาในไตรมาส 4 ปีนี้ ลงเหลือเพียง 5,000 คัน จากระดับ 15,000 คัน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนจับตาเหตุการณ์สำคัญที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งรวมถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจประกาศแผนการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมทั้งจับตานโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟด ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ในเดือนก.พ.ปีหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ