ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 118.29 จุด จากแรงขายหุ้นเทคโนฯ-การเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday December 30, 2017 06:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2560 โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการเงินปรับตัวลดลง ท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขายที่เบาบาง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,719.22 จุด ลดลง 118.29 จุด หรือ -0.48% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,673.61 จุด ลดลง 13.93 จุด หรือ -0.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,903.39 จุด ลดลง 46.77 จุด หรือ -0.67%

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.13% ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.36% และดัชนี Nasdaq ร่วง 0.81% อย่างไรก็ดี ตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งสามดัชนีปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 25.1% พร้อมทำสถิติปิดทำนิวไฮเป็นครั้งที่ 71 ในปี 2560 ขณะที่ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้น 19.4% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 28.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน

ส่วนในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์นั้น บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงา ขณะที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจรายการสำคัญๆ ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดปรับตัวขึ้นและเคลื่อนไหวในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะมีแรงเทขายส่งเข้ามาในช่วงท้ายตลาดและถ่วงดัชนีปิดแดนลบ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ หลังมีรายงานข่าวว่า เรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียส่งน้ำมันให้กับเกาหลีเหนือในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซีย

นอกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงินที่ปรับตัวลดลงแล้ว หุ้นกลุ่มสื่อสารและกลุ่มบริการด้านสุขภาพก็ลดลงเช่นกัน หลังมีแรงขายเข้ามาในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย จากรายงานข่าวดังกล่าว

หุ้นแอปเปิ้ลร่วง 1.08% หลังบริษัทออกแถลงการณ์ขอโทษกรณีที่ทำให้ไอโฟนรุ่นเก่าทำงานช้าลง ขณะที่หุ้นอเมซอนร่วง 1.4%

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 0.4% หลังบริษัทเผยว่ามีแผนที่จะเพิ่มเงินเดือนให้กับผู้บริหารระดับสูงจำนวนหนึ่งในปีหน้า โดยอ้างถึงกฎหมายปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อไม่นานมานี้

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.9% ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 0.68% หลังบริษัทเผยว่าผลกำไรในไตรมาสสี่อาจได้รับผลกระทบจากกฎหมายภาษีฉบับใหม่

สำหรับในปีหน้านั้น นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แก่ปัจจัยทางการเมือง ซึ่งรวมถึงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ การสืบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2559 ไปจนถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศ เช่น เกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างจับตาเหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งได้แก่การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะประกาศแผนการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมไปถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟด ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ในเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ