ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ม.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีดีดตัวขึ้นทำนิวไฮ เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดในปี 2561 รวมข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคการผลิตในสหรัฐ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่เหนือระดับ 7,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,824.01 จุด เพิ่มขึ้น 104.79 จุด หรือ +0.42% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,695.81 จุด เพิ่มขึ้น 22.20 จุด หรือ +0.83% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,006.90 จุด เพิ่มขึ้น 103.51 จุด หรือ +1.50%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นวันทำการวันแรกของปี 2561 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มตลาด โดยผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนซึ่งจัดทำโดย AAII ระบุว่า 50.5% ของนักลงทุนที่ได้รับการสำรวจล่าสุดนี้ มีความเชื่อมั่นว่าราคาหุ้นจะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเวลา 6 เดือนนี้ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2558 จากระดับ 53.9 ในเดือนพ.ย. สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของภาคการผลิตสหรัฐ ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ในภาคการผลิตปรับตัวสูงขึ้น และการจ้างงานในภาคการผลิตพุ่งขึ้นในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้น 1.4% และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเฟซบุ๊ก ทะยานขึ้น 2.8% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 1.8% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 1.7%
ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ พุ่งขึ้น 2.8% โดยหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 6.8% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 6.2% และหุ้น Nvidia ดีดตัวขึ้น 3%
สำหรับหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจนั้น หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 3% หลังจากเจพีมอร์แกน ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอ๊บบอตขึ้นสู่ระดับ "overweight" จากระดับ "neutral" ขณะที่หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์แมคควอรี ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ขึ้นสู่ระดับ "outperform"
หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น หลังจากซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า บริษัทค้าปลีกของสหรัฐจะได้รับประโยชน์จากมาตรการปรับลดภาษี โดยหุ้นเจซี เพนนี หุ้นนอร์ดสตรอม และหุ้นโคล์ท ต่างก็ปิดตลาดในแดนบวก
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนพ.ย., รายงานการประชุมประจำวันที่ 12-13 ธ.ค. 2560 ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.จากมาร์กิต และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างจับตาเหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มจะประกาศแผนการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมทั้งจับตานโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟด ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ในเดือนก.พ.ปีนี้