ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ แต่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนไม่ได้มีความกังวลมากนักต่อการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) ซึ่งย่างเข้าสู่วันที่ 3 ในวันนี้
ณ เวลา 21.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,041.13 จุด ลดลง 30.59 จุด หรือ 0.12%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ 197 อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ร่างงบประมาณดังกล่าวไม่สามารถได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะผ่านวุฒิสภาก่อนกำหนดเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ ส่งผลสหรัฐเผชิญภาวะชัตดาวน์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2556 โดยมีการปิดหน่วยงานที่ไม่สำคัญบางส่วน เนื่องจากขาดงบประมาณในการดำเนินงาน
อย่างไรก็ดี นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา กล่าวว่า วุฒิสภาจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวอีกครั้งในเวลาเที่ยงตรงวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเที่ยงคืนนี้ตามเวลาไทย โดยงบประมาณดังกล่าวจะช่วยให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ.
นายแมคคอนเนลล์เรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสให้ความร่วมมือในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์
ทั้งนี้ การผ่านร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวจำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุน 60 เสียงจาก 100 เสียงของวุฒิสภา ขณะที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาเพียง 51 เสียง โดยประเด็นที่พรรคเดโมแครตหยิบมาต่อรอง คือ ต้องการให้ร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้พ่วงการต่ออายุโครงการ Deferred Action for Childhood Arrivals (DACA) ซึ่งเป็นโครงการภายใต้รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา เนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว นายเจฟฟ์ เซสชั่นส์ รมว.ยุติธรรมของรัฐบาลทรัมป์ ได้ประกาศยกเลิกโครงการดังกล่าวที่ได้คุ้มครองเยาวชนจากครอบครัวผู้เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และช่วยให้คนเหล่านี้เกือบ 8 แสนคนสามารถเรียนและทำงานได้ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยในบรรดาบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ซึ่งมีการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 แล้วนั้น บริษัทจำนวน 68% รายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าคาดการณ์ ขณะที่ 85% รายงานยอดขายสูงกว่าคาด