ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ยังคงดิ่งหนัก บ่งชี้วอลล์สตรีททรุด หลังตัวเลขจ้างงานหนุนบอนด์ยิลด์พุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 2, 2018 21:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้ายังคงร่วงลงกว่า 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทรุดตัวลงในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ตลาดกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานดังกล่าว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ณ เวลา 21.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 246 จุด หรือ 0.94% สู่ระดับ 25,926 จุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3% แตะ 3.074% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ทะยานขึ้นแตะ 2.83% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่ได้ดีดตัวขึ้น 0.31% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 ซึ่งในเดือนดังกล่าว อัตราผลตอบแทนพุ่งขึ้น 0.53%

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 252,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนม.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 196,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 4,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ทรงตัวที่ระดับ 62.7%

ทางด้านเฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 5.4% ในไตรมาสแรก หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

หากเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 5.4% ในไตรมาสแรกตามที่เฟดคาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นไตรมาสที่มีการขยายตัวดีที่สุดนับตั้งแต่ที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่สิ้นสุดลงในปี 2552 ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐทำสถิติขยายตัวสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.2% ซึ่งทำไว้ในไตรมาส 3 ของปี 2557


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ