ดาวโจนส์ไหลไม่หยุด ล่าสุดทรุดกว่า 400 จุด ขณะที่สัปดาห์นี้ดิ่งหนักสุดรอบ 2 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday February 3, 2018 01:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 400 จุด หลุดระดับ 26,000 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

ตลาดกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาด และตัวเลขค่าแรงของแรงงานที่ดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ณ เวลา 01.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,782.71 จุด ลดลง 404.00 จุด หรือ 1.54%

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวย่ำแย่ในสัปดาห์นี้ โดยดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบรายสัปดาห์

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงนำตลาดวันนี้ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง 1% ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิลทรุดตัวลงมากกว่า 5% หลังเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขรายได้หรือค่าแรงของแรงงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปีในเดือนม.ค. จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดภายใต้การนำของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคนใหม่ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์หน้า ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มากกว่า 3 ครั้งที่มีการคาดการณ์กันก่อนหน้านี้ เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่จะดีดตัวขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3% แตะ 3.074% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ทะยานขึ้นแตะ 2.83% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่ได้ดีดตัวขึ้น 0.31% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 ซึ่งในเดือนดังกล่าว อัตราผลตอบแทนพุ่งขึ้น 0.53%

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานวันนี้ว่า ตัวเลขค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2552

ตัวเลขค่าแรงต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

นายจอห์น บริกก์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากแน็ทเวสต์ มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ตัวเลขค่าแรงเป็นปัจจัยที่ผลักดันตลาดพันธบัตร และนักลงทุนจะจับตาตัวเลขดังกล่าวในเดือนหน้าเพื่อดูว่าค่าแรงจะยังคงพุ่งขึ้นหรือไม่

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 252,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนม.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 196,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 4,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ทรงตัวที่ระดับ 62.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ