ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกผลประกอบการ"ดอยซ์แบงก์",บอนด์ยีลด์พุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday February 3, 2018 07:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) หลังจากดอยซ์แบงก์ ธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี เปิดเผยตัวเลขขาดทุนติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ซึ่งส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและประเทศยุโรป ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.4% ปิดที่ 388.07 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2559

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,785.16 จุด ร่วงลง 218.74 จุด หรือ -1.68% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,364.98 จุด ลดลง 89.57 จุด หรือ -1.64% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,443.43 จุด ลดลง 46.96 จุด หรือ -0.63%

หุ้นดอยซ์แบงก์ ร่วงลง 6.2% หลังจากธนาคารเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/2560 อยู่ที่ 2.18 พันล้านยูโร เนื่องจากรายได้โดยรวมปรับตัวลง 19% แตะระดับ 5.71 พันล้านยูโร ขณะที่ตัวเลขขาดทุนสุทธิตลอดปี 2560 อยู่ที่ 512 ล้านยูโร ซึ่งเป็นการขาดทุนติดต่อกันปีที่ 3

การร่วงลงของหุ้นดอยซ์แบงก์ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารที่คำนวณในดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 1.1%

นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลต่อการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยเมื่อคืนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3% แตะที่ 3.074% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษประเภท 10 ปี ดีดตัวขึ้น 0.05% สู่ระดับ 1.571% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2560 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีประเภทอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06% สู่ระดับ 0.705% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 200,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

ส่วนตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี

หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านของอังกฤษร่วงลง หลังจากการสำรวจของ Markit/CIPS พบว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคก่อสร้างของสหราชอาณาจักรปรับตัวลงสู่ระดับ 50.2 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังแตะระดับ 52.2 ในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ หุ้นบาร์แรตต์ เดเวลลอปเมนต์ส ร่วงลง 1.7% หุ้นเทย์เลอร์ วิมปีย์ ลดลง 1.7% และหุ้นเพอร์ซิมมอน ลดลง 0.5%

หุ้นแอสทราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ดีดตัวขึ้น 3.1% หลังจากราคาหุ้นร่วงลงในระหว่างวัน จากการรายงานผลกำไรก่อนหักภาษีของบริษัทซึ่งทรุดตัวลงถึง 81% ในไตรมาส 4/2560 อันเนื่องมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น

หุ้นแคปิตอล พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ปรับตัวขึ้น 2.3% เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาหุ้นแคปิตอลร่วงลงอย่างหนักถึง 48% เมื่อวันพุธ ภายหลังจากบริษัทประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2561 และระงับการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น

หุ้นบีที ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด

ส่วนหุ้นโนเกีย ดีดตัวขึ้น 1.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของเอ็มเคเอ็ม พาร์ทเนอร์ส ได้ปรับเพิ่มระดับความน่าลงทุนของหุ้นโนเกีย สู่ระดับ "buy" จากระดับ "neutral" หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรและรายได้ที่แข็งแกร่งเกินคาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ