ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 1,175.21 จุด นักลงทุนตื่นตระหนกกระแสคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 6, 2018 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายหุ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางความตื่นตระหนกต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ หลังจากตัวเลขจ้างงานและค่าแรงในสหรัฐขยายตัวมากกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,345.75 จุด ร่วงลง 1,175.21 จุด หรือ -4.60% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,648.94 จุด ลดลง 113.19 จุด หรือ -4.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,967.53 จุด ลดลง 273.42 จุด หรือ -3.78%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ หลังจากมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 200,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์อินเวสโคกล่าวว่า ตัวเลขรายได้หรือค่าแรงของแรงงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปีในเดือนม.ค.นั้น อาจเป็นปัจจัยหนุนให้คณะกรรมการเฟดภายใต้การนำของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคนใหม่ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่จะดีดตัวขึ้น

ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัททรัพย์ฟอร์ท พิทท์ แคปิตอล แสดงความเห็นว่า การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกระหน่ำขายอย่างหนักเมื่อคืนนี้ มาจากความตื่นตระหนกของนักลงทุน และจากการที่นักลงทุนจำนวนหนึ่งได้เข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนอย่างหนัก โดยดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 เมื่อคืนนี้

หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 9.2% หลังจากเฟดได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ทำการขยายธุรกิจต่างๆ หลังจากมีรายงานว่าธนาคารแห่งนี้ยังคงมีพฤติกรรมหลอกลวงลูกค้า และละเมิดกฎระเบียบของภาคธนาคาร นอกจากนี้ เฟดยังห้ามไม่ให้เวลส์ ฟาร์โก มีสินทรัพย์โดยรวมมากไปกว่ามูลค่าสินทรัพย์ที่ถือครอง ณ สิ้นปี 2560 จนกว่าธนาคารแห่งนี้จะปรับปรุงระบบการบริหารจัดการให้ดีขึ้น

หุ้นบริสทอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ดิ่งลง 4% แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 4/2560

หุ้นควอลคอมม์ ร่วงลง 6.6% หลังจากมีรายงานว่า บรอดคอม ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพในธุรกิจสื่อสาร ได้ปรับเพิ่มข้อเสนอในการเข้าซื้อกิจการควอลคอมม์ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพสำหรับสมาร์ทโฟน อีก 17% สู่ระดับ 82 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นบรอดคอม ปิดตลาดร่วงลง 3.1%

ก่อนหน้านี้ ควอลคอมได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัทบรอดคอม โดยมองว่ามีมูลค่าต่ำเกินไป และมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานควบคุมการผูกขาดตลาด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดและส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.3 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน จากระดับ 53.7 ในเดือนธ.ค.

นักลงทุนจับตาสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณในวันนี้ ก่อนที่งบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดีนี้ โดยการลงมติในวันนี้มีขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) จำนวนกว่า 7 แสนคน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะยกเลิกโครงการดังกล่าวภายในวันที่ 5 มี.ค. ซึ่งจะส่งผลให้มีการเนรเทศผู้อพยพเหล่านี้กลับประเทศ

ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณภายในเวลาเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงของวันศุกร์ตามเวลาไทย สหรัฐก็จะเผชิญภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) อีกครั้ง หลังจากที่เกิดการชัตดาวน์เป็นเวลา 3 วันในเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลการค้าเดือนธ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ