ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงเกือบ 200 จุด บ่งชี้วอลล์สตรีทยังดิ่งลงคืนนี้ หลังเผชิญ"แบล็กมันเดย์"วานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 6, 2018 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงเกือบ 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงดิ่งลงในการซื้อขายคืนนี้ หลังจากทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อวานนี้

ณ เวลา 17.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 184 จุด หรือ 0.77% สู่ระดับ 23,754 จุด หลังจากดิ่งลงกว่า 800 จุดก่อนหน้านี้

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงหนักเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายหุ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางความตื่นตระหนกต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ในปีนี้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ หลังจากตัวเลขจ้างงานและค่าแรงในสหรัฐขยายตัวมากกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ที่ 24,345.75 จุด ร่วงลง 1,175.21 จุด หรือ -4.60% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,648.94 จุด ลดลง 113.19 จุด หรือ -4.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,967.53 จุด ลดลง 273.42 จุด หรือ -3.78%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ หลังจากมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 200,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขรายได้ หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี

การดิ่งลง 4.6% ของดัชนีดาวโจนส์เมื่อวานนี้ ถือเป็นการร่วงลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.2554 และการทรุดตัวลง 1,175.21 จุด ถือเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นจุดนับตั้งแต่มีการก่อตั้งตลาดหุ้นนิวยอร์ก

ขณะเดียวกัน หลักทรัพย์จำนวน 6,986 หลักทรัพย์ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดในแดนลบเมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2559

นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นวอลล์สตรีททะลักมากถึง 1.15 หมื่นล้านหุ้น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรุดตัวเป็นประวัติการณ์ ต้อนรับนายเจอโรม พาวเวล ซึ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ แต่เขาก็ไม่ใช่ประธานเฟดคนเดียวที่เผชิญเหตุการณ์ตลาดหุ้นทรุดในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง โดยดัชนี S&P 500 รับนายเบน เบอร์นันเก้ ด้วยการดิ่งลงมากกว่า 2% ในการทำงานวันแรกของเขา ส่วนนางเจเน็ต เยลเลน ก็ต้องพบกับการดิ่งลงของดัชนี S&P ราว 1%

สำหรับการซื้อขายในวันนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้เริ่มปรับตัวลงในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีอ่อนตัวลงสู่ระดับ 2.722% ส่วนประเภทอายุ 30 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 3.023%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ