ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ หลังจากดิ่งลงกว่า 100 จุดในช่วงแรก บ่งชี้ว่าดัชนีจะปรับตัวผันผวนอย่างมาก เช่นเดียวกับรูปแบบการซื้อขายเมื่อวานนี้
ณ เวลา 23.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,218.27 จุด เพิ่มขึ้น 305.50 จุด หรือ 1.23%
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง
ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้น 567.02 จุด อย่างไรก็ดี หากพิจารณารวมทั้งจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดที่ดัชนีดาวโจนส์ทำไว้เมื่อวานนี้ พบว่า ดัชนีมีการแกว่งตัวผันผวนอย่างมากในแดนบวกสลับแดนลบคิดเป็นช่วงกว้างถึง 1,167.49 จุด
ตลาดวอลล์สตรีทแกว่งตัวอย่างมากในช่วง 3 วันที่ผ่านมา จากความวิตกที่ว่าเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การซื้อขายหุ้นที่มีการตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ล่วงหน้า ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนักในระยะนี้
นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ตลาดยังจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยเจ้าหน้าที่เฟดที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ ได้แก่ นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส, นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก, นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก
นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดควรถอนตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เนื่องจากตลาดแรงงานที่ตึงตัวได้เพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นายแคปแลนยังกล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรุดตัวลงในระยะนี้ ถือเป็นการปรับฐานที่ดี หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นายแคปแลนคาดว่าการดิ่งลงของตลาดหุ้นจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจแต่อย่างใด
นักลงทุนยังได้ให้ความสนใจต่อการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในสภาคองเกรสสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป
ร่างงบประมาณชั่วคราวที่สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบเมื่อวานนี้ จะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการดำเนินงานต่อไปได้อีก 6 สัปดาห์ หรือจนถึงวันที่ 23 มี.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์
ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณภายในเวลาเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงของวันศุกร์ตามเวลาไทย สหรัฐก็จะเผชิญภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง หลังจากที่เกิดการชัตดาวน์เป็นเวลา 3 วันในเดือนที่แล้ว