ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลง ขณะหุ้นจีนและฮ่องกงดิ่งหนัก

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ร่วงลง ภายหลังจากที่เกิดแรงเทขายจากความกังวลเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้นจนทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนนั้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักในวันนี้ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย และร่วงลงไปราว 3% ในการซื้อขายภาคเช้า

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,436.73 จุด ลดลง 1,014.54 จุด, -3.33% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,185.76 จุด ลดลง 705.10 จุด, -3.22% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ร่วง 3% ปิดภาคเช้าที่ 10,061.68 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,823.58 จุด ลดลง 15.86 จุด, -0.86%

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้านอกหมวดอาหาร และการบริการ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI เดือนม.ค.ขยายตัวในอัตราที่ช้าลงจากเดือนธ.ค.ซึ่งมีการขยายตัว 1.8% เมื่อเทียบรายปี

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ขยายตัว 4.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี

สำหรับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐนั้น หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอาจจะต้องปิดทำการ หรือชัตดาวน์ ในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐได้เลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวไปจนกว่าจะถึงเวลา 12.01 น.ตามเวลาไทยในวันนี้

รายงานระบุว่า สาเหตุที่วุฒิสภาสหรัฐต้องเลื่อนการพิจารณางบประมาณชั่วคราวนั้น มาจากการที่นายแรนด์ พอล วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ได้คัดค้านร่างงบประมาณฉบับดังกล่าว