ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วง 100 จุด บ่งชี้วอลล์สตรีทปรับฐานคืนนี้ หลังพุ่งแรงเมื่อวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 13, 2018 20:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลง 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้

ณ เวลา 20.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 100 จุด หรือ 0.41% สู่ระดับ 24,483 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยมีการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค

นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค.ในวันพรุ่งนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย

ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ดัชนี CPI ประจำเดือนม.ค.จะชะลอตัวสู่ระดับ 1.9% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.1% ในเดือนธ.ค.

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอาจเผชิญภาวะทรุดตัวอย่างหนักอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ หากดัชนี CPI พุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดไว้

นายปิแอร์ คูร์แรน หัวหน้าฝ่ายซื้อขายหุ้นของบริษัทแอมพลิฟาย เทรดดิ้ง กล่าวว่า ภาวะตลาดจะขึ้นอยู่กับการเปิดเผยตัวเลข CPI

"ตัวเลข CPI ที่จะมีการประกาศในวันพุธ เป็นตัวเลขเงินเฟ้อที่มีความสำคัญอย่างมาก ถ้าหากตัวเลข CPI อยู่ที่ระดับ 1.9% หรือมากกว่า 2% ก็จะทำให้ตลาดหุ้นถูกเทขายออกมาเหมือนกับในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถ้าตัวเลข CPI อยู่ที่ราว 1.7-1.8% ผมก็คิดว่าตลาดจะสงบลง" เขากล่าว

ทั้งนี้ ดัชนี CPI ส่วนใหญ่ปรับตัวที่ระดับ 1.7% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

คำกล่าวของนายคูร์แรนสอดคล้องกับนายเจสัน แวร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของอัลเบียน ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ซึ่งกล่าวว่า "หากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าคาด ก็จะสร้างความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นในตลาด แต่ถ้าตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง และหุ้นก็จะทะยานขึ้น"

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ย

ทางด้านบริษัทเป๊ปซี่โค เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยว่ามีกำไร 1.31 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.30 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.953 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.939 หมื่นล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ