ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 336.70 จุด หลังนักลงทุนคลายกังวลสงครามการค้า,หุ้นพลังงาน-เทคโนฯดีดแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 6, 2018 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า สหรัฐอาจยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,874.76 จุด พุ่งขึ้น 336.70 จุด หรือ +1.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,720.94 จุด เพิ่มขึ้น 29.69 จุด หรือ +1.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,330.70 จุด เพิ่มขึ้น 72.84 จุด หรือ +1.00%

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ หลังจากปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณผ่านการทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐอาจยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม อย่างน้อยที่สุดสำหรับแคนาดาและเม็กซิโก หากมีการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ที่เป็นธรรม

"สหรัฐจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ก็ต่อเมื่อมีการลงนามในข้อตกลง NAFTA ใหม่ที่เป็นธรรม โดยเราขาดดุลการค้าจำนวนมากกับเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งข้อตกลง NAFTA ที่กำลังมีการเจรจากันในขณะนี้ เป็นข้อตกลงที่ไม่ดีสำหรับสหรัฐ ทำให้มีการโยกย้ายการจ้างงานและบริษัทออกจากสหรัฐ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

นอกเหนือจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าแล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากรายงานจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ซึ่งระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั่วโลกจะยังคงสนับสนุนการใช้น้ำมันอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2566

ทั้งนี้ หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 0.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 5.4% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ปรับตัวขึ้น 0.5%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นอเมซอน ปรับตัวขึ้น 1.5% หุ้นไมโครซอฟท์ ขยับขึ้น 0.6% หุ้นอัลฟาเบท ปรับขึ้น 0.9% และหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ทะยานขึ้น 4.6%

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 1.3% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ขยับขึ้น 0.3%

หุ้นเอ็กซ์แอล กรุ๊ป ทะยานขึ้น 29% หลังจากมีข่าวว่า แอกซ่า (AXA) ซึ่งเป็นบริษัทประกันสัญชาติฝรั่งเศส ได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อกิจการเอ็กซ์แอล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยต่อ ที่ตั้งอยู่ในเบอร์มิวดา ในวงเงิน 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยการซื้อกิจการดังกล่าวนับเป็นการทำสถิติวงเงินสูงสุดของการที่บริษัทในยุโรปเข้าซื้อธุรกิจประกันในสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 55.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2558 จากระดับ 53.8 ในเดือนม.ค.

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนม.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ