ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังข้อมูลจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday March 10, 2018 08:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นของสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่บริษัทในยุโรปเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก หลังการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 378.24 จุด ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ปรับตัวขึ้น 3.1%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,274.40 จุด เพิ่มขึ้น 20.30 จุด หรือ +0.39% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,346.68 จุด ลดลง 8.89 จุด หรือ -0.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,224.51 จุด เพิ่มขึ้น 21.27 จุด หรือ +0.30%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นหลังได้รับอิทธิพลจากตลาดหุ้นสหรัฐ ที่พุ่งขึ้นหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.15% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สู่ระดับ 26.75 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลที่ว่าภาวะเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 239,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนก.พ. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 287,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 26,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นที่ระดับ 63%

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปยังคงถูกกดดันจากมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งอาจเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดสงครามการค้า

ด้านนางเซซิเลีย มาล์มสตรอม กรรมาธิการการค้าของสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาเรียกร้องว่า EU ควรได้รับการยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% เช่นกัน เนื่องจาก EU เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐ

นอกจากนี้ นางมาล์มสตรอมยังกล่าวอีกด้วยว่า เธอต้องการคำชี้แจงที่ชัดเจนจากสหรัฐเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวในเร็วๆนี้ และจะพูดคุยร่วมกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้

ด้านข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่มีผลต่อการซื้อขายในตลาดเมื่อคืนนี้ยังรวมถึงตัวเลขส่งออกที่ปรับตามฤดูกาลของเยอรมนีที่ดิ่งลงถึง 0.5% ซึ่งนับเป็นการปรับตัวลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลงเช่นกันที่ 0.1% ในเดือนม.ค. โดยทั้ง 2 ข้อมูลนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง

ด้านข้อมูลหุ้นที่น่าสนใจได้แก่หุ้นกลุ่มเหล็กอย่างอาร์ซีลอร์ มิททัล เอ็สเอ ที่ปรับตัวลง 0.6% หลังได้รับผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์

ขณะเดียวกัน หุ้นบริษัทให้บริการเสี่ยงโชคออนไลน์อย่าง จีวีซี โฮลดิงส์ พีแอลซี กลับปรับตัวขึ้นถึง 5% หลังการเปิดเผยผลกำไรประจำปี 2560 ที่พุ่งขึ้นถึง 24% เมื่อเทียบรายปี อยู่ที่ 896.1 ล้านยูโร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ