ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด ต่อเนื่องจากวันศุกร์ นักลงทุนคลายกังวลเงินเฟ้อหลังเผยจ้างงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 12, 2018 21:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ทะยานขึ้นกว่า 400 จุด หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้

ณ เวลา 20.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,439.50 จุด เพิ่มขึ้น 103.76 จุด หรือ 0.41%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแอปเปิล อิงค์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำการปรับเวลาซื้อ-ขายหุ้นในตลาดวันนี้ โดยปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง เนื่องจากเข้าสู่ช่วง Daylight Saving Time

ทั้งนี้ ตลาดเปลี่ยนแปลงเวลาซื้อขาย จากเดิม 21:30-04:05 น. ตามเวลาไทย เป็น 20:30-03:05 น.ตามเวลาไทย

การปรับเวลาตาม Daylight Saving Time ในสหรัฐปีนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม-4 พฤศจิกายน

เมื่อวันศุกร์ สหรัฐเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเกินคาด แต่ค่าจ้างปรับขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทำให้ไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.พ.เป็นตัวเลขสมบูรณ์แบบที่ดีที่สุดสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นเพียง 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.15% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สู่ระดับ 26.75 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในเดือนม.ค.

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงาน 313,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ถือเป็นจุดหักเหของเศรษฐกิจ ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆมีการจ้างงานมากพอที่จะช่วยนำคนว่างงานในระยะยาวเข้าสู่ตลาดแรงงาน

นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของค่าจ้างที่ระดับ 0.15% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ ก็ได้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น หลังจากที่การทะยานขึ้นของค่าจ้างในเดือนม.ค.ได้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้น และฉุดให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลง

นักวิเคราะห์ชี้ว่า เฟดมองว่าการจ้างงานในเดือนก.พ.อยู่ในภาวะสมบูรณ์แบบ ซึ่งหมายความว่าไม่มากจนเกินไปจนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป หรือทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ ขณะเดียวกัน ตัวเลขการจ้างงานก็ไม่ได้อ่อนแอจนเกินไปจนทำให้เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของค่าจ้าง

สำหรับนักลงทุนในตลาด มองว่าตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ร้อนแรงจนทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนเฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว

ทางด้านสัญญาฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังการเปิดเผยรายงานจ้างงานดังกล่าว แต่ไม่ได้ดีดตัวมากจนบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค. ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ