ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 9.29 จุด เหตุหุ้นเทคโนฯร่วงต่อเนื่อง,หุ้นอเมซอนดิ่งหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 29, 2018 06:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าทุบขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ การดิ่งลงอย่างหนักของหุ้นอเมซอนยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเช่นกัน โดยการร่วงลงของหุ้นเหล่านี้ได้สกัดปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 4/2560

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,848.42 จุด ลดลง 9.29 จุด หรือ -0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,605.00 จุด ลดลง 7.62 จุด หรือ -0.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,949.23 จุด ลดลง 59.58 จุด หรือ -0.85%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงถูกเทขาย อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่า ทางการสหรัฐอาจใช้มาตรการที่เข้มงวดต่อบริษัทเทคโนโลยี เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน รวมทั้งรายงานงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กซึ่งระบุว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กำลังพิจารณาจำกัดการลงทุนจากจีนในภาคเทคโนโลยีของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ และเทคโนโลยี 5G โดยการควบคุมดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้กฎหมายควบคุมสถานการณ์พิเศษแห่งชาติ

ในบรรดาหุ้นเทคโนโลยีที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 4.96% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปรับตัวลง 0.17% ส่วนหุ้นเฟซบุ๊ก ขยับขึ้น 0.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยแนวทางการปรับปรุงการรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊ก

หุ้นอเมซอน ร่วงลง 6.7% ส่งผลให้มูลค่าทางตลาดของอเมซอนลดลงกว่า 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และนับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งสัญญาณว่าต้องการครอบครองบริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่แห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องดังกล่าวในขณะนี้

หุ้นเทสลา มอเตอร์ ร่วงลง 7.7% หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทเทสลา ลงสู่ระดับ B3 จากระดับ B2 อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่อง และจากการที่คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐได้ทำการสอบสวนกรณีผู้ใช้รถยนต์เทสลาประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้น Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ ร่วงลง 1.9% หลังจากบริษัทประกาศระงับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ ภายหลังจากรถยนต์ไร้คนขับของอูเบอร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรียกใช้พาหนะตามสั่ง (ODM) ประสบอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิตในรัฐแอริโซนา

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.2% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.2% หุ้นมาราธอน ออยล์ ดิ่งลง 3.1% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.7%

ทั้งนี้ แรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นต่างๆเหล่านี้ ได้สกัดปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้าย ของตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 4/2560 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 2.9% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 2.5% และตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.6%

ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวขึ้น 3.1% สู่ระดับ 107.5 ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ที่ดัชนีดิ่งลงหนักสุดในรอบกว่า 3 ปี

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้และเป็นที่จับตาของนักลงทุน ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ