ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง,ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีถดถอย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 25, 2018 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 3% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีนั้น อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 ในเดือนเม.ย.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.02% ปิดที่ 383.11 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,550.82 จุด ลดลง 21.57 จุด หรือ -0.17% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,444.16 จุด เพิ่มขึ้น 5.61 จุด หรือ +0.10% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,425.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.53 จุด หรือ +0.36%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งทะลุระดับ 3% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.001% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.171%

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินดีดตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนมีต้นทุนในการกู้ยืมสูงขึ้น อันจะนำไปสู่การลดการลงทุน และลดการจ้างงาน ขณะเดียวกันอาจทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย และจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะซบเซา และถดถอยในที่สุด ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ และเครื่องมือทางการเงินในระบบ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังอ่อนแรงลงหลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงสู่ระดับ 102.1 ในเดือนเม.ย. หลังจากอยู่ที่ระดับ 103.3 ในเดือนมี.ค. โดยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 102.8 ขณะที่ได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

หุ้นบังโค ซานตานเดร์ ซึ่งเป็นธนาคารของสเปส ดิ่งลง 3.3% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 10% สู่ระดับ 2.51 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

หุ้นเอเอ็มเอส เอจี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพและเป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง 9% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวขึ้น 1.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ