ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 5.17 จุด เหตุนักลงทุนกังวลผลเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 4, 2018 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายในช่วงที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนกำลังเจรจาด้านการค้า โดยความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมี.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,930.15 จุด เพิ่มขึ้น 5.17 จุด หรือ +0.02% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,629.73 จุด ลดลง 5.94 จุด หรือ -0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,088.15 จุด ลดลง 12.75 จุด หรือ -0.18%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ได้เข้าร่วมประชุมเป็นเวลา 2 วันกับเจ้าหน้าที่ของจีนที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งการประชุมได้เริ่มขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นในวันนี้ โดยคาดว่าการเจรจาระหว่างนายมนูชิน และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะครอบคลุมประเด็นกว้างๆเกี่ยวกับความไม่พอใจที่สหรัฐมีต่อการดำเนินนโยบายการค้าของจีน นับตั้งแต่ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการถ่ายโอนเทคโนโลยี ไปจนถึงการที่รัฐบาลจีนยื่นมือเข้ามาอุดหนุนเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี

ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้สกัดปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้แก่ ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง 15.2% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว โดยแรงหนุนจากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น 2.0% สู่ระดับ 2.085 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าลดลง 1.8% สู่ระดับ 2.575 แสนล้านดอลลาร์

ส่วนคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนมี.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% โดยยอดสั่งซื้อที่ปรับตัวขึ้นได้รับผลบวกจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อเครื่องบิน นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐซึ่งสำรวจโดยไอเอชเอส มาร์กิตนั้น ดีดตัวสู่ระดับ 54.6 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 54.0 ในเดือนมี.ค.

หุ้นเทสลา มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ร่วงลง 5.6% แม้บริษัทเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่สูงกว่าคาดก็ตาม ขณะที่หุ้นคาร์ดินาล เฮลธ์ ดิ่งลง 21% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงินของบริษัท พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2561

หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ร่วงลง 5.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 1 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ขณะที่หุ้นสปอติฟาย เทคโนโลยี ดิ่งลง 5.7% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัท

อย่างไรก็ดี หุ้นคราฟท์ ไฮนซ์ ดีดตัวขึ้น 1.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของวอลล์สตรีท ขณะที่หุ้น FireEye ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ทะยานขึ้น 9.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่สูงเกินคาด และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2561

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะพุ่งขึ้น 192,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 103,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ