ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัว บ่งชี้วอลล์สตรีทพุ่งคืนนี้ ขานรับราคาน้ำมันทะลุ 70 ดอลล์ทำนิวไฮกว่า 3 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 7, 2018 19:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าดีดตัวขึ้น บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่ราคาน้ำมันทะยานขึ้นเหนือระดับ 70 ดอลลาร์ในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี

ณ เวลา 18.57 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 77 จุด หรือ 0.32% สู่ระดับ 24,305 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ทะยานขึ้น 332.36 จุด หรือ 1.39% โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังมีรายงานข่าวที่ว่าบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐ ได้ทุ่มเงินซื้อหุ้นของบริษัทแอปเปิลมากถึง 75 ล้านหุ้นในไตรมาสแรกของปีนี้

นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่ซบเซาของสหรัฐ ก็ได้ช่วยลดแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย. โดยเพิ่มขึ้นเพียง 164,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 192,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 4.0%

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ ทะลุระดับ 70 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 โดยนักลงทุนวิตกว่าสหรัฐอาจคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ขณะที่ใกล้ถึงวันที่ 12 พ.ค.

นอกจากนี้ วิกฤตเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ ก็ได้เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันในวันนี้

ณ เวลา 18.26 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.05% สู่ระดับ 70.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีเวลาจนถึงวันที่ 12 พ.ค.ในการตัดสินใจว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านหรือไม่ โดยข้อตกลงฉบับนี้เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

แต่เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ปีที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว และมีการละเมิดหลายครั้ง

หากปธน.ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ก็จะปูทางให้สหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้อิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันสู่ตลาด และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นต่อไปอีก

นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ