ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความไม่แน่นอนของการจัดการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในเดือนหน้า
นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ต่ำกว่าคาด ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พ.ค. ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
ณ เวลา 20.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,732.63 จุด ลดลง 101.78 จุด หรือ 0.41%
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแคทเทอร์ พิลลาร์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆกับรัฐบาลจีนในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลสหรัฐบรรลุข้อตกลงชั่วคราวกับรัฐบาลจีนในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบริษัท ZTE โดยทางบริษัทจะถูกปรับเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และต้องมีการปรับเปลี่ยนฝ่ายบริหาร จากเดิมที่รัฐบาลสหรัฐประกาศห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าให้กับ ZTE เป็นเวลา 7 ปี เนื่องจาก ZTE ได้ส่งออกสินค้าไปยังอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร
วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานอีกว่า เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่สหรัฐยินยอมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบริษัท ZTE รัฐบาลจีนจะยอมยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสินค้าเกษตรจากสหรัฐวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์
ปธน.ทรัมป์กล่าวปฏิเสธรายงานของสื่อดังกล่าว โดยระบุว่า "ไม่มีการทำข้อตกลงใดๆทั้งสิ้น และเราจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาไม่พอใจต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีขึ้นที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า มีโอกาสสูงมากที่การประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะไม่เกิดขึ้นในเดือนหน้า
ปธน.ทรัมป์เน้นย้ำว่า การประชุมสุดยอดจะไม่เกิดขึ้น หากเกาหลีเหนือไม่ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ
ทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมีผลประกอบการต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1 โดยบริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.32 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.39 ดอลลาร์/หุ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 1.656 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.658 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทโลว์ส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ของสหรัฐ และเป็นคู่แข่งของบริษัทโฮม ดีโปท์ อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 1 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีกำไร 1.19 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 0.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.06%
ทิฟฟานี แอนด์ โค ผู้จำหน่ายเครื่องประดับรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าคาดในไตรมาส 1 โดยบริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.14 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 83 เซนต์/หุ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายที่ระดับ 1.03 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 959.4 ล้านดอลลาร์