ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก หลังร่วงลงในช่วงแรก โดยได้รับอานิสงส์จากรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่การจัดการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ตามที่มีการกำหนดไว้
อย่างไรก็ดี คาดว่าการซื้อขายในตลาดจะเป็นไปอย่างซบเซา ก่อนช่วงวันหยุดยาวในสหรัฐ โดยตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันจันทร์หน้าเนื่องในวัน Memorial Day
ณ เวลา 21.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,817.18 จุด บวก 5.42 จุด หรือ 0.02%
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงถ่วงตลาดในวันนี้ ตามการทรุดตัวของราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่การจัดการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ตามที่มีการกำหนดไว้ แม้ว่าเมื่อวานนี้เขาเพิ่งประกาศยกเลิกการประชุมดังกล่าว โดยอ้างถึงท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์จากเกาหลีเหนือ
"เรากำลังดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรากำลังเจรจากับพวกเขาในขณะนี้" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้
"การประชุมอาจมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งเราอยากให้มันเป็นเช่นนั้น" ปธน.ทรัมป์กล่าว
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ขานรับท่าทีของเกาหลีเหนือในการเปิดช่องสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขาและนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า ถือเป็นข่าวดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับแถลงการณ์ที่อบอุ่นและสร้างสรรค์จากเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ นายคิม คเย กวาน รมช.ต่างประเทศเกาหลีเหนือ และเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือที่ทำหน้าที่เจรจากับสหรัฐ กล่าวว่า "เราได้เล็งเห็นถึงความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ อย่างที่ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดเคยทำมาก่อน ในความตั้งใจที่จะจัดการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐ และเราอยากบอกกับสหรัฐอีกครั้งว่า เราเปิดกว้างสำหรับการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเมื่อใด หรือด้วยวิธีการใดก็ตาม"
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.7% ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.4% หลังจากพุ่งขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค.
การชะลอตัวของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากร่วงลง 0.9% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานดีดตัวขึ้น 6.6% ในเดือนเม.ย.