ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 13.71 จุด เหตุวิตกสงครามการค้า ขณะ Nasdaq ทำนิวไฮหลังหุ้นเทคโนฯพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 6, 2018 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและบรรดาประเทศคู่ค้า ซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป (EU) อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทำสถิติปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,799.98 จุด ลดลง 13.71 จุด หรือ -0.06% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,748.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.93 จุด หรือ +0.07% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,637.86 จุด เพิ่มขึ้น 31.40 จุด หรือ +0.41%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า เช่น สหภาพยุโรป (EU), แคนาดา และเม็กซิโก หลังจากที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ประเทศคู่ค้าเหล่านี้ได้ประกาศมาตรการตอบโต้เช่นกัน ส่วนการเจรจาการค้ารอบที่ 3 ระหว่างสหรัฐและจีนที่จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ทั้งสองฝ่ายยังคงไม่ได้ข้อยุติแต่อย่างใด

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 1.5% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวลง 0.7% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ลดลง 0.5% ส่วนหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวลง 0.9%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นอเมซอนดอทคอม ทะยานขึ้น 1.9% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.8% ขณะที่หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 5.1% ขานรับข่าวที่ว่า บริษัททวิตเตอร์ อิงค์ เตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในดัชนี S&P500

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลภาคบริการที่สดใสของสหรัฐ โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 58.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 56.8 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 57.6

ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 56.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2558 จากระดับ 54.6 ในเดือนเม.ย.

นักลงทุนยังคงติดตามการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย. เพื่อดูว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือได้หรือไม่ ขณะที่ทำเนียบขาวยืนยันว่า การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์ โดยการประชุมจะเปิดฉากขึ้นในเวลา 09.00 น.ตามเวลาสิงคโปร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ในการประชุมดังกล่าว หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง และการพุ่งขึ้นของค่าจ้างแรงงาน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย., ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 1/2561, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ