ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 103.01 จุด วิตกสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 19, 2018 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นปัจจัยลบต่อตลาด อย่างไรก็ตาม การดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีช่วยให้ตลาดสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,987.47 จุด ร่วงลง 103.01 จุด หรือ -0.41% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,773.75 จุด ลดลง 5.91 จุด หรือ -0.21% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,747.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.65 จุด หรือ +0.01%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนจำนวน 1,100 รายการที่จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจากนั้นไม่นาน รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตอบโต้สหรัฐด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทข้ามชาติในภาคอุตสาหกรรม โดยหุ้นโบอิ้ง และหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ต่างก็ปรับตัวลง 0.9% หุ้น 3M ลดลง 0.4% ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงหุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก และหุ้นอีตัน คอร์ป ต่างก็ปิดตลาดในแดนลบ

หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวลง โดยหุ้นแวเลียนท์ ฟาร์มาซูติคัล อินเตอร์เนชันแนล ร่วงลง 12.3% หลังจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ไม่อนุมัติการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์โลชั่นที่ใช้รักษาโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ซึ่งผลิตโดยแวเลียนท์ ฟาร์มาซูติคัล ส่วนหุ้นไซโอฟาร์ม ออนโคโลจี ดิ่งลง 18.4% หลังจาก FDA ได้สั่งระงับการทดลองยารักษาโรคมะเร็งของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานนั้น หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 0.2%

ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นอเมซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 0.4%

หุ้น JD.com บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีนซึ่งเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทได้รับเงินลงทุนมูลค่า 550 ล้านดอลลาร์จากกูเกิล โดยเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ระหว่างสองบริษัทชั้นนำ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด สู่ระดับ 68 ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน จากความกังวลเกี่ยวกับค่าวัสดุที่แพงขึ้น

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น 2 จุด นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค., ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 1, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ