ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลง 5 วันทำการติดต่อกัน และแตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นใหญ่ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% ขณะที่สกุลเงินวอลอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ลดลง 36.13 จุด หรือ 1.52% ปิดที่ 2,340.11 จุด มีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 7.9 ล้านล้านวอน (7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) มีหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 717 ต่อ 137
หุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวลดลง โดยหุ้นซัมซุง อิเลกโทรนิคส์ ร่วงลง 0.86% ขณะที่หุ้นเทคโนโลยี หุ้นเอสเค ไฮนิกซ์ ร่วงลง 0.12%
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงในวันนี้ เช่นเดียวกันตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชียที่ต่างก็ร่วงลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐได้มีการประกาศรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% วงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า รัฐบาลจีนพร้อมตอบโต้อย่างรุนแรง หากรัฐบาลสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% จริงตามที่ปธน.ทรัมป์ขู่ไว้ โดยมาตรการตอบโต้ของจีนจะเป็นไปในทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ