ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ หลังนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไร

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าดีดตัวขึ้นในวันนี้ โดยนักลงทุนได้เข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดได้ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,287.42 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด, +0.04% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 29,588.40 จุด เพิ่มขึ้น 120.25 จุด, +0.41% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,718.01 จุด เพิ่มขึ้น 2.65 จุด, +0.15%

นักลงทุนยังคงจับตาข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า รัฐบาลจีนพร้อมจะตอบโต้อย่างรุนแรง หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ตามที่ปธน.ทรัมป์ขู่ไว้

ความขัดแย้งดังกล่าวของทั้งสหรัฐและจีนเป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนจำนวน 1,100 รายการที่จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจากนั้นไม่นาน รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตอบโต้สหรัฐด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน

สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในช่วงเช้านี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนเม.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการคนหนึ่งของ BOJ กล่าวว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมถือเป็นสิ่งเป็นในการผลักดันเงินเฟ้อให้ขยายตัวรวดเร็วขึ้น แต่กรรมการส่วนใหญ่ต้องการให้ BOJ คงนโยบายการเงินไว้ที่ระดับเดิม

ทั้งนี้ แม้ไม่มีการเปิดเผยชื่อของกรรมการคนดังกล่าว แต่ก็คาดว่าจะเป็นนายโกชิ คาตาโอกะ ซึ่งมักจะออกเสียงคัดค้านการตัดสินใจคงนโยบายการเงินของ BOJ แต่กรรมการคนอื่นๆของ BOJ ไม่ได้ออกเสียงสนับสนุนความคิดของนายคาตาโอกะ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในระยะเวลาที่ยาวนานเกินไป