ดาวโจนส์ร่วงไม่หยุด ล่าสุดทรุดกว่า 350 จุด ผวาสหรัฐจำกัดการลงทุนบริษัทต่างชาติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 25, 2018 22:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 350 จุดในวันนี้ หลังจากมีข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนที่จะจำกัดการลงทุนของจีนในบริษัทด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ

ณ เวลา 22.28 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,227.39 จุด ลดลง 353.50 จุด หรือ 1.44% โดยดัชนีปรับตัวลงตำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยรอบ 200 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.

หุ้นโบอิ้ง และอินเทลร่วงลงนำตลาด

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า สหรัฐเตรียมออกแถลงการณ์จำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีน หากพบว่าประเทศใดละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาต่อสินค้าด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ

"ในนามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผมขอชี้แจงว่า ข่าวเกี่ยวกับการที่สหรัฐจะจำกัดการลงทุนของจีนที่ปรากฎในสำนักข่าวบลูมเบิร์ก และหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ถือเป็นข่าวลวง โดยคนปล่อยข่าวอาจจะไม่มีอยู่จริง หรือไม่รู้เรื่องนี้มากนัก และทางกระทรวงจะออกแถลงการณ์ที่ไม่ระบุโดยตรงถึงจีนเท่านั้น แต่จะเป็นแถลงการณ์ต่อทุกประเทศที่กำลังพยายามขโมยเทคโนโลยีของเรา" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานวานนี้ว่า ปธน.ทรัมป์วางแผนที่จะห้ามบริษัทของจีนเข้าลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีของสหรัฐ และจะห้ามบริษัทสหรัฐส่งออกเทคโนโลยีให้กับจีน โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง

วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อห้ามไม่ให้บริษัทที่มีชาวจีนถือหุ้นอยู่อย่างน้อย 25% เข้าซื้อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติและกระทรวงพาณิชย์ยังได้ร่วมกันจัดทำแผนเพื่อควบคุมการส่งออกให้เข้มงวดขึ้นเพื่อป้องกันการส่งออกเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรมไปยังจีน

วอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่า สหรัฐเตรียมประกาศมาตรการดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ เพื่อตอบโต้นโยบาย"เมดอินไชน่า 2025" ของจีนที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยี

ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ยังเตือนว่า "ทุกประเทศที่ตั้งกำแพงการค้า และเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ควรจะยุติการกระทำดังกล่าว มิฉะนั้นจะเผชิญกับการตอบโต้จากสหรัฐ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ