ดาวโจนส์ดีดตัวต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งเกือบ 150 จุด ขานรับจ้างงานแกร่ง ขณะคาดเฟดไม่เร่งขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 6, 2018 23:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุดพุ่งขึ้นเกือบ 150 จุด ขานรับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. ขณะที่การชะลอตัวของตัวเลขค่าจ้างบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อในระดับต่ำ ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ณ เวลา 23.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,502.68 จุด บวก 145.94 จุด หรือ 0.60%

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 5 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.2% จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 2.8% จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งการชะลอตัวของค่าจ้างในเดือนมิ.ย.ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 244,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนเม.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 159,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนมิ.ย. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 202,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 11,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 62.9% จากระดับ 62.7% ในเดือนพ.ค.

ขณะเดียวกัน ปัจจัยการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนไม่ได้กดดันตลาดในวันนี้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ สหรัฐได้เรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังได้ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงินมากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกือบเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากจีนทั้งหมดในปีที่แล้ว หากจีนยังคงตอบโต้สหรัฐ และไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังขานรับการเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่งในเดือนพ.ค.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่งในเดือนพ.ค. หลังการส่งออกพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 6.6% สู่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลงสู่ระดับ 4.37 หมื่นล้านดอลลาร์ และลดลงจากระดับ 4.61 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ดี สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนพุ่งขึ้น 18.7% สู่ระดับ 3.32 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. และขาดดุลการค้าต่อเม็กซิโกทะยานขึ้น 18.8%

หากปรับค่าตามเงินเฟ้อ สหรัฐขาดดุลการค้าลดลงสู่ระดับ 7.53 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 7.75 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.

กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 1.9% สู่ระดับ 2.153 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกถั่วเหลือง และเครื่องบินพาณิชย์

ส่วนการนำเข้าสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 2.584 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ