(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 99.74 จุด รับตัวเลขจ้างงานแข็งแกร่ง,คาดเฟดไม่เร่งขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 9, 2018 06:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 ก.ค.) ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น ขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนมิ.ย. โดยมุมมองด้านบวกที่นักลงทุนมีต่อข้อมูลแรงงานสหรัฐนั้น ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,456.48 จุด เพิ่มขึ้น 99.74 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,759.82 จุด เพิ่มขึ้น 23.21 จุด หรือ +0.85% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,688.39 จุด เพิ่มขึ้น 101.96 จุด หรือ +1.34%

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.8% ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้น 1.5% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.4%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 5 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.2% จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 2.8% จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ค. โดยการชะลอตัวของค่าจ้างในเดือนมิ.ย.ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

นักวิเคราะห์จากบริษัทแฮร์ริส ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ในรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐ กล่าวว่า การที่นักลงทุนขานรับข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้เรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คนดังกล่าวยังระบุว่า มูลค่าภาษีนำเข้าที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีนเมื่อวันศุกร์นั้น ไม่มากพอที่จะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และไม่ได้มากเท่ากับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขู่ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงินมากกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกือบเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากจีนทั้งหมดในปีที่แล้ว โดยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า ยังมีโอกาสที่สหรัฐและจีนจะเจรจาเพื่อต่อรองกันในเรื่องนโยบายการค้า

หุ้นไบโอเจน พุ่งขึ้นเกือบ 20% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ผลการทดสอบยารักษาโรคอัลไซเมอร์ในระยะที่ 2 ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นไบโอเจนได้ช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพในดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นด้วย

หุ้นเจพีมอร์แกน ปรับตัวขึ้น 0.3% หลังจากเจพีมอร์แกนได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวจากนิตยสาร WirtschaftsWoche ของเยอรมนี ซึ่งระบุว่า ทางธนาคารต้องการเข้าซื้อหุ้นของดอยซ์แบงก์ ธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี

ทั้งนี้ นิตยสาร WirtschaftsWoche รายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีมีความกังวลต่อสถานะการเงินของดอยซ์แบงก์ อีกทั้งรายงานด้วยว่า เจพีมอร์แกนต้องการเข้าซื้อหุ้นในธนาคารดอยซ์แบงก์ แต่ในเวลาต่อมา โฆษกของเจพีมอร์แกนได้ออกมาปฏิเสธข่าวการเข้าซื้อหุ้นดอยซ์แบงก์ โดยกล่าวว่า "เราขอปฏิเสธข่าวดังกล่าว มันไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด"

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 1.4% หุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดีดขึ้น 2.4% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.4% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 1.9% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 0.7%

หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง พุ่งขึ้น 2.9% โดยได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มของหุ้นอาลีบาบา ขณะที่หุ้นควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายชิพโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 0.8% หลังจากมีรายงานว่า ควอลคอมม์ยังคงเดินหน้าเสนอซื้อกิจการของเอ็นเอ็กซ์พี เซมิคอนดักเตอร์

สำหรับข้อมูลด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 6.6% สู่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลงสู่ระดับ 4.37 หมื่นล้านดอลลาร์ และลดลงจากระดับ 4.61 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ดี สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 18.7% สู่ระดับ 3.32 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. และขาดดุลการค้าต่อเม็กซิโกเพิ่มขึ้น 18.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ