ดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด นักลงทุนเมินสงครามการค้า ขณะขานรับตัวเลขจ้างงานแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 9, 2018 21:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ โดยนักลงทุนเมินสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ขานรับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ณ เวลา 21.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,679.04 จุด เพิ่มขึ้น 222.56 จุด หรือ 0.91%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างก็ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยราคาหุ้นเฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบทต่างปรับตัวขึ้นราว 0.5%

นักลงทุนขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น ขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนมิ.ย.

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 5 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.2% จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 2.8% จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ค. โดยการชะลอตัวของค่าจ้างในเดือนมิ.ย.ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่นักลงทุนขานรับข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสกัดปัจจัยลบเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้เรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน

ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% ในไตรมาส 2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ