(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 94.52 จุด ขณะนลท.จับตาผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 16, 2018 06:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (13 ก.ค.) กลับไปยืนอยู่เหนือระดับ 25,000 จุดได้อีกครั้ง ด้าน S&P 500 ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2,800 จุด และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน หลังฤดูรายงานผลประกอบการได้เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว ซึ่งธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐได้เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสก่อนตลาดเปิดทำการในวันศุกร์ ซึ่งผลออกมามีทั้งที่ดีกว่าคาดการณ์และแย่กว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,019.41 จุด เพิ่มขึ้น 94.52 จุด หรือ +0.38% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,801.31 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,825.98 จุด ขยับขึ้น 2.06 จุด หรือ +0.03%

สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 2.3% S&P ปรับตัวขึ้น 1.5% และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.8% โดยทั้งสามดัชนีปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน

หุ้นกลุ่มพลังงานและอุตสาหกรรมเป็นแกนนำหุ้นบวก ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลดลง หลังจากที่ธนาคารรายใหญ่เผยผลประกอบการ

ทั้งนี้ ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐมีกำหนดรายงานผลประกอบการก่อนตลาดเปิดทำการในวันศุกร์ โดยเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรพุ่งขึ้น 18% ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 9.4% โดยแตะระดับ 8.32 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

เจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 2.29 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 2 มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.22 ดอลลาร์/หุ้น และเป็นไตรมาสที่ 14 ติดต่อกันที่ธนาคารมีกำไรสูงกว่าคาด

นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 2.84 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.74 พันล้านดอลลาร์

ทางด้านซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่รายได้ต่ำกว่าคาด โดยธนาคารมีกำไร 1.63 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.56 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่ธนาคารมีรายได้ 1.8469 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.8512 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะที่เวลส์ ฟาร์โก ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

เวลส์ ฟาร์โก ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 1.08 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.12 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดเผยตัวเลขรายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารยังคงได้รับผลกระทบจากกรณีอื้อฉาวจากการที่พนักงานสร้างบัญชีลูกค้าปลอมจำนวนกว่า 2 ล้านบัญชีเพื่อเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านการเงินของธนาคาร

ทั้งนี้ บริษัทราว 5% ในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 แล้วในขณะนี้ โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16.37% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น 20% หลังจากพุ่งขึ้น 24% ในไตรมาสแรก

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 97.1 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 98.2

ผลการสำรวจพบว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลง 0.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2559 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค.

การร่วงลงของดัชนีราคานำเข้าได้รับผลกระทบจากการลดลงของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี หากเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าพุ่งขึ้น 4.3% ในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกพุ่งขึ้น 5.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2554

ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ลบ 0.5% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วง 2.2% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 1.2% หลังสามแบงก์เผยผลประกอบการ

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ร่วง 1.4% หลังจากที่คณะลูกขุนในศาลรัฐมิสซูรีมีคำสั่งให้บริษัทจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวน 4.69 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.56 แสนล้านบาท แก่ผู้หญิง 22 คนซึ่งป่วยเป็นมะเร็งในรังไข่ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์แป้งโรยตัวของบริษัท ซึ่งรวมถึงแป้งเด็กจอห์นสัน ที่มีส่วนผสมของทัลคัม โดยคำตัดสินดังกล่าวถือเป็นการสั่งจ่ายเงินชดเชยในวงเงินสูงที่สุดที่บริษัทจอห์นสันเผชิญในข้อหาดังกล่าว

หุ้นเอทีแอนด์ที ร่วง 1.7% หลังจากที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเผยว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดที่ยอมให้บริษัทสื่อสารรายใหญ่รายนี้เข้าซื้อไทม์ วอร์เนอร์ได้

หุ้นซิสโก้ ซีสเต็มส์ ร่วง 4.1% หุ้นจูนิเปอร์ เน็ตเวิร์คส์ ลดลง 2.3% หลังมีรายงานว่าบริษัท อเมซอนดอทคอม กำลังพิจารณาที่จะก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่ง ซึ่งข่าวนี้ได้ฉุดให้หุ้นบริษัทด้านอุปกรณ์เครือข่ายปรับตัวลดลง

ด้านหุ้นอเมซอน บวก 0.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ