ดาวโจนส์ปรับตัวแคบ ราคาน้ำมันทรุดฉุดตลาด นักลงทุนจับตาผลประกอบการ,ถ้อยแถลงปธ.เฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 16, 2018 21:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้

ณ เวลา 20.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,012.71 จุด ลดลง 6.70 จุด หรือ 0.03%

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% หลุดระดับ 70 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังสหรัฐประกาศผ่อนผันให้ประเทศต่างๆสามารถซื้อน้ำมันอิหร่านต่อไป แม้มีการคว่ำบาตรอิหร่าน

ณ เวลา 20.38 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.56 ดอลลาร์ หรือ 2.20% สู่ระดับ 69.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า ประเทศผู้นำเข้านำมันบางรายจะได้รับการผ่อนปรนให้สามารถซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ต่อไป ถึงแม้ว่าสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

"เราต้องการให้ประเทศต่างๆลดการซื้อน้ำมันอิหร่านจนถึงระดับศูนย์ แต่ในบางกรณีหลายประเทศไม่สามารถทำเช่นนั้นในช่วงข้ามคืน เราจึงเสนอข้อยกเว้น" นายมนูชินกล่าว

นายมนูชินยังระบุว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ต้องการสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดน้ำมันโลก ขณะที่ทำการกดดันอิหร่านให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

ราคาหุ้นอเมซอน บริษัทยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของสหรัฐ พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ ซึ่งเป็นวัน Prime Day 2018

ณ เวลา 21.03 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นอเมซอนแตะระดับ 1,831.0 ดอลลาร์ โดยทะยานขึ้น 17.97 ดอลลาร์ หรือ 0.99%

อเมซอนประกาศจัดงานวัน Prime Day 2018 โดยจะเริ่มขึ้นในวันนี้เวลา 15.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 02.00 น.ตามเวลาไทย โดยจะดำเนินไปเป็นเวลา 36 ชั่วโมงจนถึงวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ วัน Prime Day ถือเป็นวันช็อปปิ้งระดับโลกที่อเมซอนจัดขึ้น โดยจะมีการลดราคาสินค้าสำหรับสมาชิก Prime จำนวนหลายแสนรายการเพื่อกระตุ้นยอดขายประจำปี

อเมซอนได้เริ่มกำหนดวัน Prime Day ในปี 2015 เพื่อฉลองวาระครบรอบปีที่ 20 ของบริษัท ขณะที่วัน Prime Day ในปี 2017 อเมซอนสามารถทำยอดขายพุ่งขึ้น 60% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 20% หลังจากที่พุ่งขึ้น 24% ในไตรมาสแรก

แบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดค่าใช้จ่าย และมาตรการปรับลดอัตราภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 63 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 57 เซนต์/หุ้น

ขณะเดียวกัน ธนาคารมีรายได้ 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์

นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยเขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธ

อย่างไรก็ดี สื่อได้เผยแพร่แถลงการณ์ของนายพาวเวล ก่อนที่เขาจะแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่า เฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ, ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน, การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ โดยเฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ

เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยในช่วงปลายปี 2562 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ในระดับซึ่งจะจำกัดการขยายตัวเล็กน้อย ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่เหนือระดับที่เป็นกลางในช่วงเวลาดังกล่าว

มุมมองของเฟดดังกล่าวสอดคล้องกับคำกล่าวของนายพาวเวลก่อนหน้านี้ที่ว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในสภาวะสดใส โดยมาตรการปรับลดอัตราภาษี และการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลจะช่วยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อไปอีก 3 ปี

รายงานของนายพาวเวลไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มากนัก เพียงแต่ระบุว่าความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าสหรัฐเป็นปัจจัยสร้างความวิตกต่อตลาดการเงิน

นอกจากนี้ แถลงการณ์ของนายพาวเวลยังบ่งชี้ว่า เฟดไม่มีความกังวลมากนักเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน โดยระบุว่าตลาดพันธบัตรค่อนข้างมีเสถียรภาพ และแทบไม่มีแรงกดดันด้านสภาพคล่อง แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว ก็จะเพิ่มความเปราะบางต่อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับต่ำ

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. โดยสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว

ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของยอดขายรถยนต์ และสินค้าอื่นๆ

เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 6.6% ในเดือนมิ.ย.

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ทรงตัวในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ