ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์ จากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ หากมีความจำเป็น ส่งผลให้นักลงทุนมีความวิตกกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสองประเทศนี้จะบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมถึงผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.56 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 385.62 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,561.42 จุด ลดลง 124.87 จุด หรือ 0.98% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,398.32 จุด ลดลง 18.75 จุด หรือ 0.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,678.79 จุด ลดลง 5.18 จุดหรือ 0.07%
การซื้อขายได้รับปัจจัยกดดัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าจากจีน หากมีความจำเป็น
ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC ที่มีการแพร่ภาพเมื่อคืนนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ผมพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์"
ทั้งนี้ วงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ดังกล่าวเทียบเท่ากับวงเงินสินค้าจีนที่นำเข้าสหรัฐในปีที่แล้ว ซึ่งมีมูลค่า 5.055 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่สหรัฐส่งออกสินค้าไปยังจีนคิดเป็นมูลค่าเพียง 1.299 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนและสหภาพยุโรปทำการปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ก็ได้เป็นปัจจัยฉุดตลาด
หุ้นกลุ่มยานยนต์ได้ปรับตัวลดลง โดยหุ้นโฟล์คสวาเกนตลาดหุ้นเยอรมนี ปรับตัวลดลง 2.3% หุ้นเดมเลอร์ตลาดหุ้นเยอรมนี ปรับตัวลดลง 2.35% หุ้นเปอโยต์ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปรับตัวลดลง 2.41% และหุ้นเฟียต ไครสเลอร์ตลาดหุ้นอิตาลี ปรับตัวลดลง 2.31%