ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 172.16 จุด ขานรับสหรัฐ-EU ส่งสัญญาณยุติข้อพิพาทการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 26, 2018 06:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ขานรับสัญญาณบวกจากการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อเตรียมยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,414.10 จุด เพิ่มขึ้น 172.16 จุด หรือ +0.68% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,846.07 จุด เพิ่มขึ้น 25.67 จุด หรือ +0.91% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,932.24 จุด เพิ่มขึ้น 91.47 จุด หรือ +1.17%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจาก สหรัฐ และ EU ได้ตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อเตรียมยุติการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมที่ไม่รวมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ รวมทั้งขจัดอุปสรรคทางการค้า และสนับสนุนการค้าสินค้าประเภทดังกล่าว ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดความตึงเครียดด้านการค้าระหว่งทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ การตกลงให้ความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ โดยปธน.ทรัมป์กล่าวว่า EU ยังได้ตกลงที่จะซื้อถั่วเหลือง และก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างมั่นเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐ และ EU จะเป็นในลักษณะได้ประโยชน์ร่วมกัน ตามที่สหรัฐคาดหวังไว้

ทางด้านนายยุงเกอร์กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม ตราบใดที่การเจรจาการค้ายังคงดำเนินไป โดยข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับการค้าสินค้าในกลุ่มรถยนต์ พร้อมกล่าวว่า สหรัฐ และ EU เป็นพันธมิตร ไม่ใช่ศัตรู และทั้งสองฝ่ายซึ่งมีสัดส่วนการค้ารวมกันสูงถึงครึ่งหนึ่งของมูลค่าการค้าโลกนั้น ต้องร่วมมือกันเพื่อลดความตึงเครียดทางการค้า

หุ้นโคคา โคล่า พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในไตรมาส 2

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นไมโครซอฟท์ ทะยานขึ้น 2.9% หุ้นอเมซอน ปรับตัวขึ้น 1.9% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 1.5%

หุ้นเอชซีเอ เฮลธ์แคร์ พุ่งขึ้น 9.2% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2561

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ร่วงลง 4.6% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขกำไรในปีนี้ เนื่องจากต้นทุนเหล็กและอลูมิเนียมที่สูงขึ้น อันเนื่องมาจากสงครามการค้า

หุ้นเฟียต ไครส์เลอร์ ออโต้โมบิล ปรับตัวลง 0.2% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นักลงทุนจะจับตาความเคลื่อนไหวของเฟียต ไครส์เลอร์ อย่างใกล้ชิด หลังจากนายเซอร์จิโอ มาร์คิโอนเน อดีตซีอีโอของบริษัท เฟียต-ไครส์เลอร์ ได้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 66 ปีเมื่อวานนี้ ขณะที่ทางบริษัทได้แต่งตั้งนายไบรตัน ไมค์ แมนลีย์ ได้เข้ามาทำหน้าที่ซีอีโอแทนนายมาร์คิโอนเน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่อ่อนตัวลง 5.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 631,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน หลังจากที่พุ่งขึ้น 6.7% แตะระดับ 666,000 ยูนิตในเดือนพ.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญด้านอื่นๆของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ