ดาวโจนส์ฟิวเจอร์นิ่ง บ่งชี้วอลล์สตรีทปรับตัวแคบ จับตาผลประกอบการ"แอปเปิล"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 31, 2018 20:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าแทบไม่เคลื่อนไหวในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวแคบในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล อิงค์

ณ เวลา 2014 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 6 จุด หรือ 0.02% สู่ระดับ 25,291 จุด

ทั้งนี้ แอปเปิลจะเปิดเผยผลประกอบการ หลังจากปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้

ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร และรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 โดยบริษัทมีกำไร 81 เซนต์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 75 เซนต์/หุ้น และมีรายได้ที่ระดับ 1.347 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.326 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เปิดเผยกำไรในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ของปีงบการเงินของบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่รายได้ต่ำกว่าคาด โดยบริษัทมีเปิดเผยกำไรที่ระดับ 0.94 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.09 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ที่ระดับ 1.650 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.654 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเริ่มต้นในวันนี้ และจะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ในการประชุมเดือนก.ย.และธ.ค.

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นอกจากนี้ กระทรวงได้ปรับเพิ่มตัวเลขการใช้จ่ายในเดือนพ.ค.เป็นพุ่งขึ้น 0.5% จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.2%

การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมิ.ย.ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายในร้านอาหารและที่พักอาศัย

นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% เช่นเดียวกันในเดือนพ.ค.

ส่วนค่าจ้างเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย.

ขณะเดียวกัน อัตราการออมทรงตัวที่ระดับ 6.8% ในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานดีดตัวขึ้น 1.9% ในเดือนมิ.ย. ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ก่อนหน้านี้ ดัชนี PCE พุ่งแตะระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ 2.0% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2554


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ