ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 81.37 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือนก.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 2, 2018 06:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,333.82 จุด ลดลง 81.37 จุด หรือ -0.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,813.36 จุด ลดลง 2.93 จุด หรือ -0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,707.29 จุด เพิ่มขึ้น 35.50 จุด หรือ +0.46% คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดได้ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

ทั้งนี้ จากการใช้เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 91% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 71% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25% จากแผนการเดิมที่ระดับ 10% วงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระลอกใหม่นี้ ได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 3.7% หุ้น 3M ปรับตัวลง 2.5% ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลดลง 0.7% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ร่วงลง 1.4% และหุ้นอีตัน คอร์ป ร่วงลง 1%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นสวนทางการคาดการณ์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.4% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.8% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 0.8% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ร่วงลง 5.5% หุ้นมาราธอน ออยล์ ดิ่งลง 3.9% และหุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 1.5%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 5.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ตามปีงบการเงินของบริษัท โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 17% อยู่ที่ระดับ 5.33 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.34 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.18 ดอลลาร์

ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 0.5% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.2% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ดีดตัวขึ้น 0.8% และหุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 1.5%

หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.2% ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ต่างก็ดีดตัวขึ้น 0.6%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 219,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง

ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ร่วงลงสู่ระดับ 58.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 60.2 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวสู่ระดับ 59.5 อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ