ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 63.60 จุด นักลงทุนจับตาจีน-สหรัฐเจรจาการค้า,การประชุม"แจ็กสันโฮล"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 22, 2018 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองในด้านบวกเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนส.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้เช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,822.29 จุด เพิ่มขึ้น 63.60 จุด หรือ +0.25% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,862.96 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด หรือ +0.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,859.17 จุด เพิ่มขึ้น 38.17 จุด หรือ +0.49%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศได้ โดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะผู้แทนของจีนจะเดินทางไปยังสหรัฐเพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐในวันที่ 22-23 ส.ค. ซึ่งในวันที่ 23 ส.ค.นั้น จะเป็นวันที่สหรัฐจะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของทั้งสหรัฐและจีนกำลังเร่งทำโร้ดแมพเพื่อผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งจะนำไปสู่การประชุมสุดยอดระหว่างปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ในเดือนพ.ย.

ทั้งนี้ มุมมองในด้านบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 1.02% หุ้นโบอิ้ง ปรับขึ้น 0.9% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ปรับตัวขึ้น 0.6% และหุ้น 3M เพิ่มขึ้น 0.5%

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันโลกจะประสบภาวะตึงตัวหลังจากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 3.3% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 2% หุ้นมาราธอน ออยล์ เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ปรับตัวขึ้น 1.3% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ขยับขึ้น 0.3% และหุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 0.2%

หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้น หลังจากบริษัทโทลล์ บราเธอร์ส เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 2 โดยหุ้นโทลล์ บราเธอร์ส ทะยานขึ้น 13.8% หุ้นพัลท์กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 3.8% หุ้นเลนนาร์ คอร์ป ดีดตัวขึ้น 4% และหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน พุ่งขึ้น 5.5%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มบริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ร่วงลง หลังจากมีรายงานข่าวว่า เจพีมอร์แกนจะเปิดตัวบริการใหม่ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถซื้อขายหุ้นออนไลน์ได้ฟรี โดยหุ้น Charles Schwab ร่วงลง 2.4% หุ้น TD Ameritrade ดิ่งลง 7.1% หุ้น E-Trade ร่วงลง 4.3% และหุ้น Interactive Brokers ร่วงลง 2.5%

ส่วนหุ้นโคตี้ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 7.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท

นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 23-25 ส.ค.นี้ โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 24 ส.ค. ขณะที่หัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด และสิ่งบ่งชี้สำหรับทิศทางนโยบายการเงิน"

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตารายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ