ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 76.62 จุด วิตกสงครามการค้า,ตลาดจับตาประชุม"แจ็กสันโฮล"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 24, 2018 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของเฟดก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,656.98 จุด ลดลง 76.62 จุด หรือ -0.30% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,878.46 จุด ลดลง 10.64 จุด หรือ -0.13% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,856.98 จุด ลดลง 4.84 จุด, -0.17%

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวานนี้สหรัฐและจีนต่างก็ประกาศบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันรอบที่ 2 ในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดหลายคนส่งสัญญาณว่า เฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันกรรมการเฟดมีความเห็นว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับมา สนับสนุนมุมมองของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน ก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะก้าวไปสู่อีกขั้นตอนหนึ่งของการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

รายงานการประชุมของเฟดสะท้อนให้เห็นว่า คณะกรรมการเฟดพร้อมที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของเฟดก็ตาม โดยล่าสุดนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายเหยี่ยวที่มีจุดยืนสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ได้ประกาศกร้าวเมื่อวานนี้ว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ของปธน.ทรัมป์จะไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟด และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์แสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 2% หุ้นโบอิ้ง ลดลง 0.7% หุ้นอีตัน คอร์ป ลดลง 0.7% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลดลง 0.4% และหุ้น 3M ลดลง 0.7%

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.1% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.7% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี และหุ้นมาราธอน ออยล์ ต่างก็ปรับตัวลง 0.4% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 0.9%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวผันผวน โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 1.07% หุ้นอัลฟาเบธ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 0.5% หุ้นอเมซอน ขยับลง 0.1% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 0.4%

หุ้นแอล แบรนด์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ชุดชั้นใน "Victoria's Secret" ร่วงลง 11.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 1.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 627,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว

ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ อ่อนตัวลงสู่ระดับ 55.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 23-25 ส.ค.นี้ โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 24 ส.ค. ขณะที่หัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตลาด และสิ่งบ่งชี้สำหรับทิศทางนโยบายการเงิน"

นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์การเมืองของสหรัฐ หลังจากผู้ใกล้ชิดของปธน.ทรัมป์ได้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย นับตั้งแต่นายไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความที่ยอมสารภาพผิดในคดีอาญาทั้ง 8 คดี และนายพอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ ถูกศาลสหรัฐตัดสินจำคุกในข้อหาก่อกวนพยานในคดีที่รัสเซียอาจมีส่วนก้าวก่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. โดยจะมีการเปิดเผยในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ