ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา
ณ เวลา 21.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,013.30 จุด เพิ่มขึ้น 26.38 จุด หรือ 0.10%
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นในเดือนส.ค.มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลแคนาดาแสดงความกังวลว่าแคนาดาอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่กับสหรัฐในวันนี้ ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในการเจรจาเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ยังคงปฏิเสธที่จะผ่อนปรนเงื่อนไขของสหรัฐ แม้ว่านางคริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา ได้เสนอที่จะประนีประนอมในการรักษากลไกการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าอย่างอิสระภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่
สหรัฐและแคนาดายังคงไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาเป็นวันที่ 3 แม้ว่าทั้งสองฝ่ายใช้เวลาเจรจากันนานหลายชั่วโมง
นายจอร์จ โย อดีตรัฐมนตรีการค้าของสิงคโปร์ กล่าวว่า การทำสงครามการค้าที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีนอาจนำไปสู่การเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลก
สื่อรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมเดินหน้าตามแผนเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการเดินหน้าตามแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในสัปดาห์หน้า
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) จะตอบโต้สหรัฐอย่างสาสม ถ้าหากปธน.ทรัมป์กลับคำสัญญาของเขาที่ระบุว่าจะไม่เรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป
นายยุงเกอร์กล่าวว่า EU จะไม่ให้ผู้ใดมาบงการนโยบายการค้าของ EU ซึ่งถ้าหากสหรัฐตัดสินใจที่จะเรียกเก็บภาษีต่อรถยนต์ยุโรป EU ก็จะตอบโต้สหรัฐเช่นเดียวกัน
ปธน.ทรัมป์ได้ปฏิเสธข้อเสนอจากนางเซซิเลีย มัลม์สตรอม หัวหน้าคณะกรรมาธิการการค้าของ EU ที่ระบุว่า EU พร้อมที่จะยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าในภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ ถ้าสหรัฐทำเช่นเดียวกัน
"เราพร้อมลดอัตราภาษีสำหรับสินค้าทุกประเภทลงจนถึง 0% ถ้าหากสหรัฐทำเช่นเดียวกัน" นางมัลม์สตรอมกล่าวต่อรัฐสภายุโรป
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวยังไม่ดีพอ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า นโยบายการค้าของ EU แย่พอๆกับของจีน
ทั้งนี้ ข้อเสนอของนางมัลม์สตรอมถือว่าไปไกลเกินกว่าข้อตกลงในเดือนก.ค.ระหว่างปธน.ทรัมป์ และนายยุงเกอร์ ซึ่งระบุว่า สหรัฐและ EU จะดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าในภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่รถยนต์
ขณะนี้ สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถบรรทุกขนาดเบา และรถปิกอัพจากยุโรปในอัตรา 25% และเก็บภาษีรถยนต์ขนาดเล็ก 2.5% ขณะที่ EU เรียกเก็บภาษี 10% ต่อรถยนต์นั่งทุกประเภทจากสหรัฐ
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับ 96.2 ในเดือนส.ค. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 95.5
ผลการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคมีมุมมองเชิงบวกต่อรายได้ในอนาคต และมองว่าตลาดแรงงานมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ฐานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล