ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา ซึ่งได้เริ่มขึ้นเมื่อวานนี้
ณ เวลา 21.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,025.46 จุด เพิ่มขึ้น 50.47 จุด หรือ 0.19%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา จะทราบผลในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทั้งนี้ ตัวแทนเจรจาการค้าของสหรัฐและแคนาดาได้เปิดฉากการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่อีกครั้งเมื่อวานนี้ที่กรุงวอชิงตัน หลังจากที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่ปธน.ทรัมป์ระบุไว้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐและเม็กซิโกสามารถเดินหน้าต่อไปโดยไม่ต้องมีแคนาดาในการทำข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ ขณะที่นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า แคนาดาจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเจรจาข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ สหรัฐเตรียมทำสงครามการค้ารอบใหม่กับจีนในสัปดาห์นี้ โดยแหล่งข่าวระบุว่า ปธน.ทรัมป์กล่าวกับคนสนิทของเขาว่า เขาจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในวันนี้ หลังจากที่การเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในวันที่ 22-23 ส.ค.ได้สิ้นสุดลง โดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ ขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันคิดเป็นวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 49 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 203,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 214,000 ราย
ทางด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 163,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการจ้างงานภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากที่พุ่งขึ้น 217,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และต่ำกว่าระดับเฉลี่ยที่ 206,000 ตำแหน่งต่อเดือน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.9% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2558 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.0% หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในไตรมาส 1
ทั้งนี้ ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานเป็นการวัดผลผลิตรายชั่วโมงต่อแรงงาน 1 คน
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานเพิ่มขึ้น 1.3% ในไตรมาส 2
ส่วนต้นทุนแรงงานต่อหน่วยลดลง 1.0% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2557 หลังจากเพิ่มขึ้น 3.4% ในไตรมาสแรก
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 1.9% ในไตรมาส 2
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ โดยผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 157,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี หลังจากอยู่ที่ระดับ 3.9% ในเดือนก.ค.