ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 59.47 จุด เหตุวิตกสงครามการค้า ขณะ Nasdaq ปิดบวกรับหุ้นเทคโนฯพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 11, 2018 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดทางการจีนประกาศความพร้อมที่จะตอบโต้ทันที หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,857.07 จุด ลดลง 59.47 จุด หรือ -0.23% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,924.16 จุด เพิ่มขึ้น 21.62 จุด หรือ +0.27% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,877.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.45 จุด หรือ +0.19%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดนายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนจะตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้าจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่วงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากที่มีแผนเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์

"หากสหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนครั้งใหม่ จีนก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดำเนินการตอบโต้เพื่อใช้สิทธิอันชอบธรรมของเรา" นายเกิงกล่าว

ทั้งนี้ ทั่วโลกกำลังจับตาท่าทีของปธน.ทรัมป์ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อใด หลังจากผ่านพ้นกำหนดเส้นตายในวันที่ 6 ก.ย.สำหรับการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐต่อมาตรการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 8.5% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ประกาศแผนปรับทีมบริหาร ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก ปรับตัวขึ้น 0.7% หุ้นทวิตเตอร์ ดีดตัวขึ้น 0.2% หุ้นไมโครอน เทคโนโลยีส์ ปรับตัวขึ้น 0.9%

หุ้นยูไนเต็ด เรนทัลส์ ทะยานขึ้น 5.1% หลังจากบริษัทประกาศเข้าซื้อกิจการบลูไลน์ เรนทัล ในวงเงิน 2.1 พันล้านดอลลาร์

หุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 2.2% หลังจากมีข้อมูลระบุว่า ยอดขายออนไลน์ของไนกี้พุ่งขึ้นแกร่งถึง 31% จากการที่บริษัทตัดสินใจเลือกโคลิน เคเปอร์นิค อดีตควอเตอร์แบ็คของทีมซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนน์เนอร์ส ในลีกอเมริกันฟุตบอล NFL ให้แสดงในโฆษณาชุดใหม่ของไนกี้ ภายใต้แคปเปญ "Just Do It"

หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 1.3% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เรียกร้องให้แอปเปิลโยกย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐ หากต้องการหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 29%

หุ้นอาลีบาบา ดิ่งลง 3.7% หลังจากบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป แถลงว่า นายแจ็ค หม่า จะดำรงตำแหน่งประธานบริหารของอาลีบาบาอีกเพียง 12 เดือน และจากนั้นจะส่งมอบตำแหน่งประธานบริหารให้กับนายแดเนียล จาง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งซีอีโอของอาลีบาบา

หุ้นซีบีเอส คอร์ป ซึ่งเป็นสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 1.5% หลังจากนายเลส มูนเวส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีบีเอสได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเผชิญข้อกล่าวหาคดีล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวอีก 6 ราย โดยนายโจเซฟ เอียนนิเอลโล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการจะเข้ารับตำแหน่งซีอีโอของซีบีเอสเป็นการชั่วคราว

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวซึ่งคำนวณในดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 1.9% หลังจากศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคน "ฟลอเรนซ์" เตรียมพัดขึ้นฝั่งอีสต์โคสต์ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ