ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 113.99 จุด หลังหุ้น"แอปเปิล"พุ่งหนุนกลุ่มเทคโนฯ,หุ้นพลังงานดีดแรงรับราคาน้ำมันฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 12, 2018 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิล ก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone X ใหม่ 3 รุ่นในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นกว่า 2% อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายงานล่าสุดระบุว่าจีนเตรียมขออนุมัติจากองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อทำการคว่ำบาตรสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,971.06 จุด เพิ่มขึ้น 113.99 จุด หรือ +0.44% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,887.89 จุด เพิ่มขึ้น 10.76 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,972.47 จุด เพิ่มขึ้น 48.31 จุด หรือ +0.61%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นแอปเปิล ทะยานขึ้น 2.5% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.07% หุ้นอเมซอน พุ่งขึ้น 2.48% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดีดขึ้น 2.1% หุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 1.3% และหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.7%

ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ หรือตรงกับเวลาเที่ยงคืนตามเวลาไทย ขณะที่สื่อคาดากรณ์ว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone X ใหม่ 3 รุ่นในงานดังกล่าว โดยรุ่นหนึ่งจะเป็น iPhone ที่มีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้วแบบ OLED ซึ่งเป็น iPhone ที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่แอปเปิลเคยผลิตมา ส่วนอีกรุ่นหนึ่งจะมีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้วแบบ OLED เท่ากับ iPhone X ในปัจจุบัน แต่ได้รับการอัพเกรด และอีกรุ่นหนึ่งเป็น iPhone ที่มีราคาไม่แพง แต่เพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์หลักๆ ของรุ่นเรือธง โดยมีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้วแบบ LCD

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 2.5% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 2.4% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ปรับตัวขึ้น 1.7%

หุ้นกลุ่มบริษัทที่จำหน่ายวัสดุซ่อมแซมบ้านและกลุ่มบริษัทก่อสร้างปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ผลกระทบที่เกิดจากพายุเฮอร์ริเคน "ฟลอเรนซ์" จะช่วยกระตุ้นยอดขาย โดยหุ้นโฮม ดีโปท์ พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นลูว์ส ดีดตัวขึ้น 1.6% หุ้นโทลล์ บราเธอร์ส ปรับตัวขึ้น 0.8% หุ้นเลนนาร์ คอร์ป พุ่งขึ้น 1% และหุ้นพัลท์ กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 0.8%

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายงานล่าสุดระบุว่า จีนเตรียมขอการอนุมัติจากองค์การการค้าโลก (WTO) ในสัปดาห์หน้าเพื่อทำการคว่ำบาตรสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศที่ลุกลามออกไป

ทั้งนี้ ระเบียบวาระการประชุมของ WTO ระบุว่า จีนจะขออำนาจในการคว่ำบาตรสหรัฐในการประชุมคณะกรรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของ WTO ในวันที่ 21 ก.ย. โดยคำร้องของจีนระบุว่า สหรัฐไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO กรณีความขัดแย้งเกี่ยวกับการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดจากจีน ซึ่งจีนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ WTO ในปี 2556

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. โดยต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งระบุว่าเพิ่มขึ้น 0.7% ขณะที่สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 108.8 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปรับตัวขึ้นจากระดับ 107.9 ในเดือนก.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ