ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 147.07 จุด รับความหวังเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน,หุ้นเทคโนฯดีดแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 14, 2018 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากจีนได้ตอบรับคำเชิญของสหรัฐในการเจรจาการค้ารอบใหม่เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้น รวมทั้งตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะลดแนวโน้มในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,145.99 จุด เพิ่มขึ้น 147.07 จุด หรือ +0.57% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,013.71 จุด เพิ่มขึ้น 59.48 จุด หรือ +0.75% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,904.18 จุด เพิ่มขึ้น 15.26 จุด หรือ +0.53%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางปัจจัยบวกต่างๆที่ช่วยหนุนตลาด ซึ่งรวมถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน โดยนายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จีนยินดีตอบรับคำเชิญของสหรัฐสำหรับการเจรจาการค้ารอบใหม่ พร้อมกับกล่าวว่า จีนตระหนักเสมอว่าความขัดแย้งทางการค้าที่ลุกลามออกไปจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใด ซึ่งนับตั้งแต่การเจรจาเบื้องต้นที่กรุงวอชิงตันในเดือนที่แล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงทำการติดต่อกัน และหารือกันเกี่ยวกับความกังวลของแต่ละฝ่าย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนมีขึ้นหลังจากนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า คณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐได้มีการหารือกัน และมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ทางรัฐบาลจีนก็มีความต้องการที่จะเจรจาเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาของสหรัฐ จึงได้ส่งจดหมายเชิญไปยังเจ้าหน้าที่ของจีน

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดีดตัวขึ้น 0.9% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 0.8% และหุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.8% เช่นกัน

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 4.5% หุ้นอินเทล ปรับตัวขึ้น 1.4% และหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ดีดตัวขึ้น 0.7%

หุ้นควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายชิพโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ระดับโลก พุ่งขึ้น 4% หลังจากบริษัทประกาศแผนซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนในวงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มบริษัทที่จำหน่ายวัสดุซ่อมแซมบ้านและการก่อสร้างปรับตัวลง หลังจากมีรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคน "ฟลอเรนซ์" ได้ลดระดับความรุนแรงลงสู่ระดับ 2 หลังจากที่พัดเข้าชายฝั่งรัฐนอร์ธแคโรไลนาเมื่อวานนี้ โดยหุ้นโฮมดีโปท์ ร่วงลง 1.2% หุ้นลูว์ส ดิ่งลง 1.4% หุ้นเบคอน รูฟฟิ่ง ซัพพลาย ร่วงลง 5.9% หุ้นโทลล์ บราเธอร์ส ร่วงลง 1.6% และหุ้นพัลท์ กรุ๊ป ดิ่งลง 2.3%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3% โดยการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดของดัชนี CPI มีสาเหตุจากการร่วงลงของค่าใช้จ่ายด้านการรักษาสุขภาพ และเสื้อผ้า ขณะที่ราคาค่าเช่า และพลังงานปรับตัวขึ้น

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 210,000 ราย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ