ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday September 15, 2018 05:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย ท่ามกลางปัจจัยในตลาดที่ค่อนข้างเป็นบวก ภายหลังจากที่จีนตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการเจรจาการค้ากับสหรัฐ แม้หุ้นกลุ่มการเงินได้รับแรงกดดันจากหุ้น Danske Bank ที่ร่วงลง หลังมีข่าวว่าธนาคารถูกทางการสหรัฐสอบสวนเรื่องฟอกเงิน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 1.33 จุด หรือ 0.35% แตะที่ระดับ 377.85 จุดในวันศุกร์ และเพิ่มขึ้น 1% ในรอบสัปดาห์

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,352.57 จุด เพิ่มขึ้น 24.45 จุด หรือ +0.46% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,124.33 จุด เพิ่มขึ้น 68.78 จุด หรือ +0.57% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,304.04 จุด เพิ่มขึ้น 22.47 จุด หรือ +0.31%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นตามตลาดส่วนใหญ่ในเอเชียเมื่อวันศุกร์ หลังสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีสัญญาณดีขึ้นบ้าง โดยนายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนยินดีตอบรับคำเชิญของสหรัฐสำหรับการเจรจาการค้ารอบใหม่ โดยทั้งสองฝ่ายกำลังหารือกันเกี่ยวกับรายละเอียดของการจัดการประชุมดังกล่าว

นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้ส่งจดหมายไปยังเจ้าหน้าที่ของจีน เพื่อเชิญให้เข้าร่วมการเจรจาการค้าครั้งใหม่

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐมีขึ้นในช่วงเวลาที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนส่วนหนึ่งหลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี ธนาคารกลางตุรกีประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6.25% สู่ระดับ 24% จากเดิมที่ระดับ 17.75% เพื่อหนุนค่าเงินลีรา ซึ่งได้ทรุดตัวลงราว 40% เทียบดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปีนี้

ด้านสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ จากที่แข็งค่าขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีภายหลังที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศว่าจะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงครึ่งหนึ่ง สู่ระดับ 1.5 หมื่นล้านยูโร (1.74 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน นับตั้งแต่เดือนต.ค. และจะยุติมาตรการ QE โดยสิ้นเชิงในช่วงสิ้นปีนี้

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นในการประชุม ECB เมื่อวันพฤัสบดี โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปที่มีการรายงานวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ต้นทุนด้านแรงงานในยูโรโซนพุ่งขึ้น 2.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2555 จากระดับ 2.1% ในไตรมาสแรก

ส่วนต้นทุนด้านค่าจ้างเพิ่มขึ้น 1.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี

ต้นทุนแรงงานพุ่งขึ้นมากที่สุดในอิตาลี โดยเพิ่มขึ้น 3.6% ส่วนฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 2.4% เยอรมนีเพิ่มขึ้น 2.0% และสเปนเพิ่มขึ้น 0.7%

หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงกดดัน โดยหุ้น Danske Bank ของเดนมาร์ก ร่วง 1.1% หลังมีรานงานข่าวว่า ธนาคารกำลังถูกทางการสหรัฐสืบสวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการฟอกเงิน นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุถึงซิตี้กรุ๊ปและดอยซ์แบงก์ว่ามีส่วนพัวพันในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน

หุ้นดอยซ์แบงก์ ลบ 0.2% ในตลาดหุ้นเยอรมนี ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ปบวก 0.5% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นสหรัฐ

ด้านหุ้นอินเวสเทค วาณิชธนกิจของอังกฤษ ทะยาน 8.36% หลังบริษัทประกาศแยกธุรกิจบริหารสินทรัพย์

หุ้นไรอันแอร์ บวก 1.2% หลังสายการบินเผยว่าใกล้บรรลุข้อตกลงแรงงานกับกลุ่มลูกเรือในอิตาลี

หุ้นไบเออร์ บริษัทยาและเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของเยอรมนี บวก 2.23% หุ้นลินเด้ บริษัทเคมีภัณฑ์ บวก 1.65% และหุ้นโฟล์กสวาเกน เพิ่มขึ้น 1.52%

หุ้นเฮงเค็ล บริษัทเคมีและสินค้าอุปโภค ลดลง 1.58% หุ้นเมอร์ค บริษัทยา ลบ 0.87% ในตลาดหุ้นเยอรมนี

หุ้นเรโนลต์ บวก 2.86% ในตลาดหุ้นฝรั่งเศส หุ้นลอรีอัล ลบ 0.74%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ