ดาวโจนส์พุ่งเกือบ 100 จุด นักลงทุนคลายกังวล หลังสหรัฐ-จีนเรียกเก็บภาษีต่ำกว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 18, 2018 21:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขั้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ โดยนักลงทุนคลายความกังวลต่อการทำสงครามการค้า เนื่องจากการจัดเก็บภาษีในรอบนี้ทั้งจากสหรัฐและจีนอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

ณ เวลา 21.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,149.93 จุด เพิ่มขึ้น 87.81 จุด หรือ 0.34%

หุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ และแอปเปิลดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงแรก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ในอัตราต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า

รัฐบาลสหรัฐยังระบุว่า ผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์จากบริษัทแอปเปิล และบริษัทฟิตบิท รวมทั้งสินค้าเพื่อผู้บริโภครายการอื่นๆเช่น หมวกกันน็อค และที่นั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก ไม่ได้รวมอยู่ในรายการสินค้าที่ถูกเรียกเก็บภาษีครั้งล่าสุดนี้

ทางด้านจีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันนี้ เพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้

การประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งจีนจะพุ่งเป้าไปยังสินค้าสหรัฐจำนวน 5,207 รายการ

จีนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตราภาษี 5-10% โดยต่ำกว่าระดับ 20% ที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นเกือบ 1% หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลไม่ถูกรวมอยู่ในรายชื่อสินค้าที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเมื่อวานนี้

นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอปเปิล อิงค์ กล่าวถึงสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลไม่ถูกรวมอยู่ในรายชื่อสินค้าที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนว่า หากสหรัฐเก็บภาษีจากผลิตภัณฑ์แอปเปิลที่มีการนำเข้าจากจีน สิ่งนี้จะไม่เป็นผลดีต่อสหรัฐเอง

"iPhone มีการประกอบที่จีน แต่ชิ้นส่วนมาจากทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสหรัฐ ทั้งชิปประมวลผลและหน้าจอ รวมทั้งการวิจัยและพัฒนา" นายคุกกล่าว

นายคุกยังคาดการณ์ว่า สหรัฐและจีนจะสามารถหาทางออกจากความขัดแย้งทางการค้าได้ในที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ