ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าทั้งแดนบวกและลบ ขณะนักลงทุนซึมซับสงครามการค้าจีน-สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 20, 2018 11:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งในแดนบวกและลบ โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนักลงทุนไม่ได้วิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเท่าไรนัก แม้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,400.60 จุด ลดลง 6.77 จุด, -0.02% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 23,672.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด, +0.00% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,805.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.03 จุด, +0.28%

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเทียนจีนเมื่อวานนี้ว่า จีนกำลังเผชิญกับความยากลำบากและการท้าทายมากขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจ

"ขณะที่เศรษฐกิจจีนได้เข้ารวมตัวกับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น สิ่งนี้ก็ได้ทำให้เศรษฐกิจจีนไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก และบริบทของการค้า และทำให้เราประสบความยากลำบากมากขึ้นในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจจีน" นายหลี่กล่าว

อย่างไรก็ดี นายหลี่ยืนยันว่า จีนยังคงมีเครื่องมือที่เพียงพอในการรับมือกับความเสี่ยงและการท้าทายต่างๆ

นายหลี่ระบุว่า จีนจะยังคงไม่ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อนโยบายเศรษฐกิจมหภาค แต่จะให้ความสำคัญมากขึ้นต่อการใช้มาตรการป้องกันล่วงหน้า และการปรับรายละเอียดในนโยบายต่างๆ

นายแจ็ค หม่า ประธานบริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน กล่าวว่า อาลีบาบาตัดสินใจยกเลิกแผนการสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่งในสหรัฐแล้ว ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ

ทั้งนี้ นายหม่าได้ให้สัญญาว่าจะสร้างงานจำนวน 1 ล้านตำแหน่งในสหรัฐขณะที่ได้เข้าพบนายโดนัลด์ ทรัมป์ในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว ก่อนที่นายทรัมป์จะเข้าพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้นั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภาคการเงินที่ภาคครัวเรือนถือครองในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.นั้น เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 8 ไตรมาส แตะ 1,848 ล้านล้านเยน หรือ 16.5 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ยอดสินทรัพย์ภาคครัวเรือนขยายตัว 2.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ