ดาวโจนส์ร่วงต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งกว่า 160 จุด กังวลการเมืองป่วน,จีนยกเลิกเจรจาการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 24, 2018 22:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 160 จุด โดยนักลงทุนวิตกต่อปัจจัยการเมืองในสหรัฐ หลังมีข่าวว่า นายร็อด โรเซนสไตน์ รมช.ยุติธรรมสหรัฐ ได้ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่จีนได้ยกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐ จากเดิมที่มีกำหนดในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ วันนี้ยังเป็นวันที่มาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้ารอบใหม่ของสหรัฐและจีนเริ่มมีผลบังคับใช้

นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ก.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง

ณ เวลา 22.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,582.48 จุด ลดลง 161.02 จุด หรือ 0.60%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นสวนทางตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งทะลุ 72 ดอลลาร์ในวันนี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นเกือบ 3% ทะลุ 81 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 ท่ามกลางภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ตัดสินใจคงกำลังการผลิตน้ำมัน โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้มีการเพิ่มปริมาณน้ำมันในตลาด

ณ เวลา 22.45 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 2.43% สู่ระดับ 72.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 2.33 ดอลลาร์ หรือ 2.96% สู่ระดับ 81.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

Axios ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในสหรัฐ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า นายร็อด โรเซนสไตน์ รมช.ยุติธรรมสหรัฐ ได้ลาออกจากตำแหน่งในวันนี้

ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทำเนียบขาวได้ยอมรับหนังสือลาออกของนายโรเซนสไตน์แล้ว

ทั้งนี้ การลาออกจากตำแหน่งของนายโรเซนสไตน์จะส่งผลกระทบต่อนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษที่ทำหน้าที่สืบสวนความเกี่ยวพันระหว่างรัสเซียและคณะหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 รวมทั้งการสอบสวนปธน.ทรัมป์ในข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

นายโรเซนสไตน์เป็นผู้แต่งตั้งนายมูลเลอร์ให้ทำการสอบสวนดังกล่าว และนายโรเซนสไตน์ยังเสนอให้เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมบันทึกเสียงคำให้การของปธน.ทรัมป์ในทุกกรณี เพื่อใช้เป็นหลักฐานซึ่งจะนำไปสู่การถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง

นายแลร์รี่ แมคโดนัลด์ เจ้าของรายงาน Bear Traps Report ระบุว่า การลาออกของนายโรเซนสไตน์จะสร้างปัญหาต่อพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย.

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังสื่อรายงานว่า จีนได้ยกเลิกแผนการส่งนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจาการค้ากับสหรัฐ หลังจากที่สหรัฐออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ รวมทั้งการที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐประกาศคว่ำบาตรหน่วยงานด้านกลาโหมของจีนและผู้บริหารของหน่วยงานดังกล่าว

นอกจากนี้ วันนี้ยังเป็นวันที่มาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐและจีนเริ่มมีผลบังคับใช้ โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 10% ขณะที่จีนจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% คิดเป็นวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นของบริษัทอมาริน คอร์ปอเรชั่น (Amarin Corporation) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ชีวภาพของสหรัฐที่มีการจดทะเบียนที่ตลาดหุ้น Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 200% ในวันนี้ หลังผลการทดสอบปรากฎว่า แคปซูลน้ำมันปลาของบริษัทสามารถลดความเสี่ยงจากอาการโรคหัวใจของผู้ป่วยในการทดลอง

ณ เวลา 21.35 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นอมารินทะยานขึ้น 244.15% สู่ระดับ 10.29 ดอลลาร์

บริษัทอมารินออกแถลงการณ์ระบุว่า Vascepa ซึ่งเป็นแคปซูลน้ำมันปลาของบริษัท สามารถลดความเสี่ยงอย่างมากจากอาการโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้ป่วย เมื่อเทียบกับการรักษาโดยใช้ยาหลอก (placebo)

ทั้งนี้ อมารินได้ทำการทดลองดังกล่าวกับผู้ป่วยจำนวน 8,179 รายที่มีความเสี่ยงรุนแรงจากอาการโรคหัวใจและหลอดเลือด และขณะนี้ได้รับการรักษาด้วยยาสตาติน

นายจอห์น เทโร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอมาริน กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่ผลการทดลองอยู่ในระดับสูงสุดของตัวเลขคาดการณ์ โดย Vascepa สามารถลดความเสี่ยงจากอาการโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ถึง 25%

ราคาหุ้นของบริษัทคอมแคสต์ดิ่งลงเกือบ 8% ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าผลประกอบการบริษัทจะถูกกระทบ หลังจากที่บริษัทได้รับชัยชนะในการประมูลซื้อกิจการบริษัทสกาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายเคเบิลทีวีของยุโรป ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ณ เวลา 22.20 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นคอมแคสต์ร่วงลง 6.87% สู่ระดับ 35.295 ดอลลาร์ หลังจากทรุดตัวลงเกือบ 8% แตะระดับ 34.75 ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงแรก โดยราคาหุ้นทรุดตัวหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2552

คอมแคสต์ได้เสนอซื้อกิจการสกายด้วยวงเงิน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าวงเงินในข้อเสนอของทเวนตี้ เฟิร์สต์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ถึง 10% โดยฟ็อกซ์เสนอซื้อหุ้นสกายที่ระดับเพียง 15.67 ปอนด์ ขณะที่คอมแคสต์เสนอที่ระดับ 17.28 ปอนด์

ทางด้านคณะกรรมการอิสระที่บริษัทสกายตั้งขึ้น ได้เสนอให้ผู้ถือหุ้นลงมติอนุมัติข้อเสนอซื้อกิจการจากคอมแคสต์ โดยคณะกรรมการบริหารของสกาย และผู้ถือหุ้นจะต้องจัดการประชุมเพื่อให้การอนุมัติต่อข้อเสนอดังกล่าวภายในวันที่ 11 ต.ค.

นายเครก มอฟเฟท เจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทมอฟเฟท นาธานสัน ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของคอมแคสต์สู่ระดับ neutral จาก buy และลดราคาเป้าหมายสู่ระดับ 36 ดอลลาร์ จากระดับ 41 ดอลลาร์

"ปกติแล้ว ราคาหุ้นของบริษัทผู้ชนะการประมูลมักร่วงลงหลังการประมูล เนื่องจากเป็นฝ่ายที่ยอมจ่ายเงินมากกว่าเพื่อซื้อสินทรัพย์ที่คู่แข่งมองว่ามีมูลค่าไม่คุ้มกับที่จะซื้อ" นายมอฟเฟทระบุ

นายมอฟเฟทกล่าวว่า การซื้อกิจการสกายจะสร้างภาระต่อคอมแคสต์ และจะกระทบต่อผลประกอบการ เนื่องจากคอมแคสต์จ่ายเงินมากเกินไปเพื่อซื้อสกาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ